นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวหลังการประชุมสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ว่า สมาคมฯตั้งเป้าการส่งออกข้าวปีนี้ไว้ที่ 8.5 ล้านตัน ซึ่งถ้าดูการส่งออกในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ พบว่า ไทยสามารถส่งออกข้าวได้เฉลี่ยเดือนละ 700,000 ตัน ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ก็คาดว่าจะสามารถส่งออกได้ตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการคาดการณ์สถานการณ์ผลผลิตข้าวไม่เป็นไปตามที่คาด โดยประเทศที่คาดว่าผลผลิตจะได้รับความเสียหายและมีการนำเข้าอย่างอินเดีย ก็มีผลผลิตดีขึ้นและส่งออกข้าวได้บ้างแล้ว ซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกข้าวของไทย ดังนั้นในเร็วๆนี้สมาคมฯจะมีการทบทวนปริมาณการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้อีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะลดปริมาณลงจากที่ตั้งเป้าไว้ข้างต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นว่าสถานการณ์ค่าเงินบาทขณะนี้ยังมีความผันผวน ประกอบกับที่ผ่านมาได้มีการเสนอให้รัฐบาลดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง จึงจะขอดูข้อมูลโดยรวมอีก 1 อาทิตย์ รวมถึงจะหารือกับสมาคมการค้าสินค้าเกษตรอื่นๆ เพื่อหาแนวทางเสนอให้รัฐบาลพิจารณา

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นทางสมาคมฯเห็นว่าในระยะสั้นถ้ารัฐบาลไม่สามารถดูแลค่าเงินบาทได้ ก็ควรจะมีการออกมาตรการเสริมให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีเงินทุนน้อย เช่น การขยายวงเงินประกันความเสี่ยงผ่านธนาคารพาณิชย์ รวมถึงลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อความคล่องตัวในการส่งออก

"ค่าเงินบาทขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าแข็งเกินกว่าที่ผู้ส่งออกจะรับได้แล้ว โดยเฉพาะสินค้าข้าวที่ต้องแข่งกับเวียดนามที่ขายข้าวถูกมาก ถึงแม้ขณะนี้ไทยจะยังมีการส่งมอบข้าวอยู่ แต่ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าที่จะต้องมีการสั่งสินค้า(ออเดอร์) ข้าวรอบใหม่ ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าผู้ส่งออกส่งออกข้าวไม่ได้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท ก็จะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงราคาข้าวภายในประเทศที่จะต่ำลงมาอีก" นายชูเกียรติ กล่าว

ที่มา แนวหน้า