www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

คาดปี 54 เกษตรโต 2.4% ผวาน้ำมันพุ่งดันต้นทุน


นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้ศึกษาร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2554 โดยคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 1.4-2.4% ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และหวังว่าจะไม่มีปัญหาภัยธรรมชาติเหมือนในปีนี้ ซึ่งเทียบกับปี 2553 ทั้งปีพบว่าภาวะเศรษฐกิจการเกษตรภาพรวมขยายตัวลดลง 0.9% สาเหตุมาจากปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งภัยแล้ง แมลงศัตรูพืช และอุทกภัย

หากแยกเป็นรายสาขาจะพบว่าสาขาพืชขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.6-2.6% สาขาปศุสัตว์ขยายตัว 0.8-1.8% สาขาประมง 1.5-2.5% ส่วนสาขาบริการทางเกษตรขยายตัว 0.1-1.1% สาขาป่าไม้ขยายตัวลดลง 0.5%

ในปี 2544 ภาคเกษตรต้องเผชิญกับภาวะโลกร้อน ภาวะเศรษฐกิจโลก และประสิทธิภาพของนโยบาย การนำไปปฏิบัติ และคุณภาพของผลผลิต ซึ่งทั้งหมดนี้ จะต้องมีการศึกษาวิจัย ว่าปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อภาคเกษตรอย่างไร และภาคเกษตรมีผลทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกหรือไม่

ปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลต่อสินค้าเกษตรในปีหน้าอีกประการ คือ ราคาน้ำมันที่คาดการณ์ว่าจะสูงขึ้นกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูงตาม ทำให้เกษตรกรไม่ได้รับประโยชน์จากราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแนวทางเชิงรุกที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตให้ได้มาตรฐาน และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการ สศก. กล่าวว่า คาดการณ์ในปี 2554 สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ภาวะเศรษฐกิจในภาคเกษตรเติบโตได้ประมาณ 2% โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรสำคัญๆ อาทิเช่น ข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมันจะมีราคาสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ข้าวยังเป็นสินค้าที่ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากยังมีความผันผวนในเรื่องราคา ขณะเดียวกัน ก็มีคู่แข่งสำคัญ คือ เวียดนาม และการคาดการณ์ของตลาดโลกต่อปัญหาการขาดแคลนอาหาร ทำให้แต่ละประเทศเร่งเพิ่มผลผลิต รวมถึงภาวะเศรษฐกิจในหลายประเทศ ที่อาจยังไม่ฟื้นตัว เช่น ไอร์แลนด์ รวมถึงความวิตกต่อปัญหาฟองสบู่แตกของจีน ซึ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยให้การส่งออกข้าว รวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆ อาจลดลง

สำหรับข้าวนั้น คาดว่าในปีหน้าราคาจะปรับขึ้นแน่นอน อาทิเช่น ข้าวขาว คาดว่าจะอยู่ในระดับเฉลี่ยที่ 10,000 บาทต่อตัน ขณะเดียวกัน คาดว่าพื้นที่ปลูกข้าวจะสูงขึ้น เนื่องจากราคาที่อยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งจะทำให้ผลผลิตข้าวในปี 2554 อยู่ที่ประมาณ 31 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม จะมีการรณรงค์ให้เกษตรกรปลูกพืชอื่นมาเสริม เพื่อบำรุงดินสลับกับการปลูกข้าว ส่วนการขึ้นทะเบียนชาวนาสำหรับการประกันรายได้นั้น ขณะนี้ มีสถิติพื้นที่ปลูกข้าวรวมถึง 60-70 ล้านไร่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดต่อไป

"เพื่อรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทาง สศก.ได้เตรียมมาตรการมาใช้หากเกิดปัญหา ทั้งการเตือนภัยล่วงหน้า การช่วยเหลือ และการฟื้นฟู ซึ่งในส่วนของการเตือนภัยนั้นได้ประสานงานกับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมอุทกศาสตร์ สำนักฝนหลวง แล้ว เพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาประมวล และส่งข้อมูลให้ถึงเกษตรกรอย่างทั่วถึง เพื่อเตรียมรับมือโดยเฉพาะปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่"

ขณะเดียวกัน สินค้าที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด คือ ยางพารา เนื่องจากขณะนี้มีราคาสูงมากกว่า 140 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะต้องติดตามว่ามีการส่งมอบสินค้ากันจริงหรือไม่ หรือจะเป็นเพียงการเก็งกำไรเท่านั้น หากเป็นปัจจัยหลัง จะทำให้ราคายางพาราตกลงในที่สุด ซึ่งจะทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน เพราะมีความเชื่อมั่นว่าราคายางพาราจะสูงต่อเนื่อง ทำให้มีการลงทุนและจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะซื้อรถยนต์ใหม่จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมายที่จะช่วยให้ราคายางพาราไม่ต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.