นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยมีผู้แทนสมาคมชาวนา ผู้ส่งออกและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง วานนี้ (25 เม.ย.) ว่าที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (กขช.) วันนี้ (26 เม.ย.) เพื่อนำราคาพื้นฐาน (Floor Price) มาเป็นเกณฑ์อ้างอิงจ่ายค่าชดเชยให้ชาวนาตามโครงการประกันรายได้ ซึ่งมีราคาเฉลี่ยสูงกว่าการคำนวณราคาอ้างอิงเดิม จากการนำราคาข้าวย้อนหลัง 7 วัน ทำให้ชาวนาได้เงินชดเชยจากโครงการฯสูงกว่าการคำนวณราคาอ้างอิงเดิม
สำหรับราคา Floor Price คำนวณจากราคาข้าวในอดีตย้อนหลังสามปี ราคาปัจจุบันเฉลี่ยทุก 7 วัน ราคาในอนาคตที่นำมาจากตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าโดยราคา Floor Price ณ วันที่ 20-25 เม.ย.ล่าสุดข้าวเปลือกเจ้า 5% ความชื้น 15% ตันละ 8,918 บาท ขณะที่ราคาอ้างอิงที่คำนวณจากราคาข้าวช่วง 7 วันอยู่ที่ตันละ 9,142 บาท ชดเชยตันละ 858 บาท ส่วนราคาที่ซื้อขายจริงในตลาดเฉลี่ยตันละ 7,000-7,500 บาท หากยึดราคาตลาดจริงจะทำให้ชาวนาได้เงินชดเชยสูงถึงตันละ 2,800 บาท
นางพรทิวา กล่าวว่าที่ประชุมได้ข้อสรุปแผนดูแลเสถียรภาพราคาให้ปรับตัวดีขึ้น ว่าให้กขช.พิจารณาแผนการให้โรงสีซื้อข้าวในราคานำตลาด โดยนำราคาตลาดปัจจุบันบวกเพิ่มตันละ 300-500 บาท วิธีดังกล่าวโรงสี ต้องเข้ามาซื้อข้าวแข่งกับรัฐ ที่จะเปิดโครงการตั้งโต๊ะรับซื้อในราคา Floor Price ควบคู่กัน
“หลักการพิจารณาของที่ประชุมเน้นการแก้ปัญหาของชาวนาและไม่ให้บิดเบือนกลไกตลาด เพราะมีการซื้อขายข้าวทำให้ธุรกรรมเกิดขึ้น ในราคาสูงกว่าซึ่งโรงสีที่ร่วมโครงการซื้อนำตลาดกับเรา ก็จะได้สิทธิพิเศษคือนำข้าวใหม่มาแลกข้าวเก่าในสต็อกรัฐบาลที่มีราคาดีกว่าและเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า ส่วนโรงสีที่ร่วมโครงการตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวจากรัฐจะได้ค่าจ้างสีแปรสภาพข้าว” นางพรทิวา กล่าว
ทั้งนี้ ข้าวที่จะออกสู่ตลาดช่วงนี้จะมีปริมาณ 2 ล้านตัน ตามแผนที่จะเสนอ กขช.รัฐพร้อมจะรับซื้อไม่จำกัดเพื่อให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพ พร้อมหารือในการประชุม กขช.เกี่ยวกับการบริหารสต็อกข้าว ผ่านการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ต้องกำหนดแนวทางที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาตลาดรวม ที่ประชุมผู้แทนจากสมาคมชาวนาได้ เสนอให้โครงการตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวจากชาวนาใช้ราคาประกัน โดยข้าวขาวความชื้น 15% ตันละ 1 หมื่นบาท
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่าขณะนี้ราคาข้าวตกต่ำรวดเร็ว บางพื้นราคาต่ำมากเหลือตันละ 4,000-5,000 บาท ขณะที่ราคาอ้างอิงที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์เป็นราคาที่สูงเกินจริง ทำให้ชาวนาที่ขึ้นทะเบียนการประกันราคาข้าวได้ส่วนต่างน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงควรประกาศราคาให้ใกล้เคียงกับตลาด หรือเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าตันละ 7,000 บาท เพื่อให้ชาวนาได้เงินชดเชยสูงขึ้น หรือมีรายได้ใกล้เคียงกับราคาประกันที่รัฐประกาศไว้คือตันละ 1 หมื่นบาท ส่วนราคาตั้งโต๊ะรับซื้อก็ควรสูงกว่าราคาอ้างอิง เพื่อดึงราคาตลาดให้เพิ่มขึ้น ควรอยู่ที่ตันละ 9,000 บาท
“ราคาที่ชาวนาอยู่ได้ไม่ควรต่ำกว่า 10,000 บาท ไม่ว่ารัฐจะเข้ามาช่วยเหลือแนวทางใด รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท" นายประสิทธิ์ กล่าว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|