นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยภายหลังประชุมสมาคมวานนี้ (25 ส.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้สมาคมจะจัดทำหนังสือถึงนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้กระทรวงพาณิชย์เปิดกว้างการระบายข้าวสต็อกรัฐบาล เพื่อให้ผู้ส่งออกสามารถเข้าถึงการขายข้าวของรัฐได้อย่างทั่วถึงเพิ่มเติม จากก่อนหน้านี้ที่มีการเปิดขายและอนุมัติให้ผู้ส่งออกบางส่วนไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากรัฐใช้วิธีการขายข้าวรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่การเปิดประมูล สมาคมพร้อมเป็นตัวกลางกระจายข่าวสารการระบายข้าวให้ผู้ส่งออกอื่นรับทราบ
"ผู้ส่งออกต้องการให้เปิดกว้างในการพิจารณาอนุมัติขายข้าว และพิจารณาขายในราคาที่เหมาะสมเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะเชื่อว่ารัฐคงไม่มีการเปิดประมูลข้าวในช่วงนี้ ซึ่งการเปิดกว้างจะทำให้ผู้สนใจเสนอซื้อสามารถแข่งขันกันได้บนฐานข้อมูลจากภาครัฐที่เหมือนกัน" นางสาวกอบสุข กล่าว
ชี้สถานการณ์ราคาข้าวขาขึ้น
ส่วนสถานการณ์ราคาข้าวขณะนี้แนวโน้มราคายังคงปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาข้าวในเวียดนามด้วย หากไทยไม่ประสบปัญหาเรื่องค่าบาทแข็งเกิน 32-33 บาทต่อดอลลาร์ และเวียดนามไม่ลดค่าเงินด่องอีก ราคาข้าวเวียดนามและไทยจะใกล้เคียงกัน ซึ่งต้นเดือนก.ย.นี้ สมาคมจะเดินทางไปหารือกับสมาคมอาหารของเวียดนาม เพื่อสอบถามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากกระแสข่าวต่างๆ ที่มีผลต่อความผันผวนของราคาข้าวในตลาดโลก เช่น จีน สั่งซื้อข้าวจากเวียดนามในปริมาณที่สูงถึง 6 แสนตันจริงหรือไม่ ศรีลังกา เตรียมซื้อข้าวล็อตใหญ่ และเวียดนามขาดแคลนข้าวจนกระทบต่อการส่งออกแล้ว เป็นต้น
ราคาส่งออกข้าว (เอฟโอบี) ณ วันที่ 25 ส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกรายการเทียบกับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้าวหอมมะลิชั้น 1 ตันละ 1,123 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1,116 ดอลลาร์ ข้าวหอมปทุมธานี ตันละ 791 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากตันละ 787 ดอลลาร์ ข้าวขาว 5% ตันละ 472 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากตันละ 463 ดอลลาร์ ข้าวเหนียว ตันละ 1,012 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากตันละ 1,005 ดอลลาร์
ผู้ส่งออกแห่ซื้อสต็อกข้าวรัฐ
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ส่งออกจำนวนหนึ่งเสนอซื้อข้าวจากสต็อกรัฐบาลข้าวทุกชนิดปริมาณรวมเกือบ 1 ล้านตัน โดยเอกชนที่เสนอซื้อเช่น บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด บริษัท ข้าวไชยพร จำกัด บริษัท เจียเม้ง จำกัด และบริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด โดยราคาเสนอซื้อส่วนใหญ่ใกล้เคียงราคาตลาดหรือเฉลี่ย 1.3 หมื่นบาทต่อตันสำหรับข้าวขาว 5% ราคาตันละ 1.7 หมื่นบาทสำหรับข้าวหอมปทุมธานี
ราคาดังกล่าวไม่หักลดค่าเสื่อม เพราะส่วนใหญ่เป็นข้าวใหม่ปี 2551/2552 และตลาดต่างประเทศบางแห่งเช่น แอฟริกานิยมข้าวเก่า แต่อาจต้องคำนวณราคาลดค่าขนส่งจากโกดังกลางไปยังท่าเรือคลองเตย เฉลี่ยตันละ 600-700 บาท เมื่อวันที่ 24 ส.ค. กรมการค้าต่างประเทศได้ให้ผู้ส่งออกทำหนังสือยืนยันราคาหลังจากที่ได้ทำการต่อรองมาแล้ว
นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดขายข้าวสารในสต็อกรัฐบาลให้กับผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อมาเสนอกระทรวงพาณิชย์แล้วโดยเป็นการขายข้าวสาร 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมปทุมธานี ข้าวเหนียว และข้าวขาว 5% ซึ่งมีผู้ส่งออก 3 รายที่ได้ข้าวไป ได้แก่ บริษัท นครหลวงค้าข้าว บริษัท เอเชีย โกลเด้นท์ ไรซ์ และบริษัท ไทยฟ้า รายละ 300,000-400,000 ตัน รวมแล้วกว่า 1 ล้านตัน สำหรับราคาข้าวเหนียว ตันละ 20,000 บาท จากราคาตลาด 30,000 บาท ข้าวหอมปทุมธานีตันละ 17,000 บาท จากราคาตลาด 20,000 บาท และข้าวขาว 5% ตันละ 12,000 จากราคาตลาด 13,400 บาท
โรงสีจี้โปร่งใสระบุตลาดป่วน
แหล่งข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การระบายข้าวสต็อกรัฐแบบเฉพาะเจาะจงขณะนี้ สร้างความสับสนให้กับวงการข้าวอย่างมาก จนไม่สามารถวางแผนในการประกอบธุรกิจได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากข่าวที่ออกมา บางกระแสบอกรัฐขายให้บางรายไปแล้ว บางกระแสบอกว่ายังไม่ได้ขาย ทำให้วงการปั่นป่วนกันไปหมด
"การดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ทำให้วงการสับสนปั่นป่วนไปหมด วางแผนไม่ถูกว่าจะดำเนินการอย่างไร จะซื้อข้าวมาสีก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์ข้างหน้า อยากให้รัฐมีความชัดเจนและโปร่งใสในการระบาย ประกาศให้รู้เป็นการทั่วไป แล้วใครสนใจยื่นซองเปิดประมูลให้ราคาดี ก็ไปว่ากัน ไม่ใช่ทำกันแบบปิดเงียบอย่างนี้ ผู้ส่งออกบางรายก็ออกมาโวย แม้กระทั่งโรงสีเองก็วางแผนอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้เขาเล่นอะไรกัน" แหล่งข่าวกล่าว
ชี้พาณิชย์งุบงิบขายข้าว
นอกจากนี้การที่กระทรวงพาณิชย์อ้างว่า ที่ต้องการขายแบบเฉพาะเจาะจง เพราะไม่ต้องการให้ข่าวแพร่ออกไปวงกว้าง เพราะเกรงตลาดปั่นป่วนและราคาตกต่ำเหมือนกับช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา นั้น คงเป็นการเข้าใจผิดและประเมินสถานการณ์ผิดพลาดของกระทรวงพาณิชย์เอง ซึ่งต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์เป็นไปในลักษณะต่างกรรม ต่างวาระ ในช่วงเดือนก.พ.ที่ข้าวราคาตกต่ำเพราะการเก็งตลาดผิดพลาด โบรกเกอร์และผู้ซื้อรอท่าทีของรัฐบาลในการระบายข้าวส่วนข่าวมีส่วนในการฉุดราคาลงเล็กน้อย ไม่ได้มีผลอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทั่วโลกทราบสถานการณ์ผลผลิตและสต็อกข้าวของไทยเหมือนกัน
"มันเป็นข้ออ้างของกระทรวงพาณิชย์มากกว่า ที่ต้องการขายข้าวแบบเงียบๆ อ้างข่าวดังแล้วราคาจะตก แต่กลับไปทำกันแบบงุบงิบแบบนี้ไม่รู้ใครตะลุมบอนกันอย่างไร ใครเอี่ยวกันอย่างไร ยืนยันได้ว่าท่าทีโรงสีไม่ได้คัดค้านการขายข้าว เพียงแต่ขอให้มีการเปิดขายแบบโปร่งใส เปรียบเทียบกับราคาตลาด แล้วเหมาะสม" แหล่งข่าวกล่าว
แนะขอความเห็น คกก.กลั่นกรอง
นอกจากนี้ในการขายข้าวนั้นนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้แต่งตั้งคณะทำงานกลั่นกรอง 7 คน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในวงการข้าว เช่น นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์, นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า, นายอำนวย ปะติเส อดีตรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
"คณะกรรมการกลั่นกรองชุดนี้ วงการรู้จักกันดี เหมือนกับพวกเจ็ดอรหันต์เลยทีเดียว แปลกใจว่าทำไม รัฐบาลตั้งขึ้นมาแล้วไม่ให้ชุดนี้ช่วยกลั่นกรองให้ แต่กลับมีข่าวว่าอนุมัติขายไปแล้ว ขณะที่คณะกรรมการกลั่นกรองบางรายไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าเล่นอะไรกัน อย่างไร"
"มนัส" รอกลับจากเวียดนามดูข้อเสนอ
นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ติดราชการที่ประเทศเวียดนาม พร้อมคณะของ รมว.พาณิชย์ คงต้องรอให้เดินทางกลับก่อนพิจารณาดำเนินการต่อไป
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |