นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างการเดินทางร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ที่เวียดนาม ได้มีการหารือกับนายวู ฮุย ฮอง รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม เพื่อหารือถึงความร่วมมือในการค้าข้าว ซึ่งเวียดนามเห็นด้วยกับข้อเสนอของไทยในการยกระดับราคาข้าวในตลาดโลก และพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยในทุกแนวทาง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ที่จะทำให้ราคาข้าวของทั้ง 2 ประเทศปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลดีต่อเกษตรกรของทั้ง 2 ประเทศที่จะขายข้าวได้ในราคาดีขึ้น
“เวียดนามได้เห็นด้วยกับข้อเสนอของไทย ที่จะร่วมมือกันในการยกระดับราคาข้าวในตลาดโลก ซึ่งจากนี้ไปความร่วมมือจะชัดเจนมากขึ้น จะไม่มีการขายข้าวตัดราคากัน และจะมีการกำหนดเพดานราคาให้ชัดเจนว่า ข้าวชนิดนี้ ไม่ควรขายต่ำกว่านี้ เพราะการแข่งขันด้านราคา ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งหลังจากนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศไปหารือร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในเดือนต.ค.นี้” นางพรทิวากล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม AEM ครั้งนี้ ยังได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการจากมาเลเซียและอินโดนีเซียว่า มีความต้องการที่จะซื้อข้าวไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะส่งระดับเจ้าหน้าที่มาหารือกับฝ่ายไทยต่อไป
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตามที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จะทำหนังสือถึงนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ให้เปิดระบายข้าวอย่างกว้างขวาง หลังจากที่ผ่านมามีเอกชนไม่กี่ราย ที่ทราบข่าวการประมูลและได้ซื้อข้าวจากสต็อกของรัฐ ว่า เป็นสิทธิที่ผู้ส่งออกจะดำเนินการได้ แต่หลักการระบายข้าวรัฐครั้งนี้ เน้นการดูแลไม่ให้ราคาตลาดได้รับผลกระทบ ซึ่งต้องถามกลับว่าหากเปิดให้ทราบเป็นการทั่วไปว่า ไทยจะขายข้าว จะเกิดอะไรขึ้นกับราคาข้าวในตลาด
“ประเด็นอยู่ที่เรื่องราคา การส่งหนังสือแสดงความคิดเห็นทำได้ แต่ในแง่รัฐบาลนอกจากความโปร่งใสแล้ว ยังต้องดูเรื่องไม่ให้เกิดผลกระทบกับราคาตลาดอีก” นายยรรยง กล่าว
นายสุพจน์ วงศ์จิรัฐิติกาล นายกสมาคมค้าข้าวไทย กล่าวภายหลังงานเสวนาและนิทรรศการ : การเพิ่มมูลค่าข้าวไทยเพื่อการแข่งขันในตลาดสากล ว่า ไทยต้องเร่งพัฒนาหานวัตกรรมเข้ามาเพิ่มมูลค่าข้าวไทย โดยคาดว่าจะสามารถทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นได้ 10-20% ของมูลค่าการส่งออกปัจจุบันที่มีมูลค่าประมาณ 1.8-2 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งต้องเน้นการส่งออกข้าวที่มีคุณภาพให้มากขึ้น โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทย ข้าวนึ่ง หรือข้าวกล้องที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ขณะนี้ไทยเสียตลาดข้าวด้อยคุณภาพให้กับเวียดนามแล้ว 25% เนื่องจากราคาถูกกว่าข้าวไทยประมาณ 100 ดอลลาร์ต่อตัน
นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ข้าวไทยที่ส่งออกในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวเกรดพรีเมียม เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมปทุม ข้าวพันธุ์ชัยนาท ที่นำไปทำข้าวนึ่ง รัฐบาลจึงต้องส่งเสริมการขายข้าวลักษณะนี้ให้มากขึ้น แนะนำให้ผู้บริโภครู้จักการบริโภค รู้ถึงคุณภาพที่แท้จริงของข้าวไทยว่าข้าวหอมมะลิแท้ หอมมะลิเทียมต่างกันอย่างไร
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ปัญหาขณะนี้ คือเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ มีไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้ชาวนาต้องไปซื้อข้าวถุงขาวมาใช้แทน ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ไม่ได้รับรองจากกรมการข้าว ทำให้ข้าวที่ปลูกได้มีคุณภาพต่ำ จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งพัฒนาพันธุ์ให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |