นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ยกเลิกการเสนอซื้อข้าวสารในสต็อกรัฐบาล 375,000 ตัน เนื่องจากคณะทำงานเจรจาต่อรองการระบายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล เห็นว่า ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเสนอราคาผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่มองว่า น่าจะได้ราคาที่สูงกว่านี้ เพราะประเมินว่า แนวโน้มราคาข้าว ในอนาคต น่าจะปรับสูงขึ้น หลังผลผลิตข้าว ได้รับความเสียหายจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทำให้ผลผลิตอาจลดลง และถึงแม้จะมีการยกเลิกประมูลข้าวสารของรัฐบาลในครั้งนี้ แต่กระทรวงพาณิชย์ ยังมีแผนระบายข้าวสารในเร็ว ๆ นี้ โดยใช้วิธีการอื่น ทั้งการทยอยเปิดขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ เอเฟท หรือให้ผู้ส่งออก ที่มีคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศ เข้ามาเสนอซื้อข้าวจากภาครัฐ และการตั้งราคากลางขายข้าวในสต็อกของภาครัฐ แล้วให้ผู้ส่งออกมาเสนอซื้อ

นางพรทิวา กล่าวอีกว่า ผลการยกเลิกประมูลดังกล่าว ได้มีการหารือกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจแล้ว และนายไตรรงค์ ได้กำชับว่าต้องดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วและโปร่งใส ซึ่งในวันที่ 29 มกราคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่ง จะมีการนำเสนอกรอบและวิธีการระบายสต็อกข้าวของรัฐบาล เพื่อให้เป็นกรอบยืดหยุ่นและสอดคล้องกับราคาตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยยอมรับว่า ราคาที่มีการเสนอซื้อ จำนวนล็อตดังกล่าว โดยเอกชน เสนอราคาข้าวขาว 5% เฉลี่ยอยู่ที่ 15,200 – 16,600 บาทต่อตัน ขณะที่ราคาตลาด เกิน 17,200 บาทต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวเหนียว ซึ่งมีเพียง 75,000 ตัน เอกชนเสนอราคาเพียง 14,000 – 15,000 บาทต่อตัน จากราคาตลาดประมาณ 20,000 บาทต่อตัน

ที่มา สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์