นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ด้านสินค้าเกษตร เปิดเผยถึงผลการหารือระหว่างคณะที่ปรึกษากับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ว่า แม้แนวทางการระบายข้าวสารออกจากสตอกของรัฐบาลมีหลายวิธี แต่การใช้วิธีเปิดประมูลเป็นล็อตใหญ่เป็นการทั่วไปจะทำให้ราคาในตลาดลดลงทันที 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า คณะที่ปรึกษาได้แนะนำให้รัฐบาลทยอยขายข้าวในสตอกรัฐในจำนวนที่เหมาะสมและพิจารณาราคาตามตลาดในขณะนั้นเป็นสำคัญ และยอมรับว่าการใช้วิธีการเจรจาแบบลับ ๆ ของกระทรวงพาณิชย์  ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงประเด็นความโปร่งใส พร้อมกับแนะนำการระบายข้าวสารครั้งต่อไป กระทรวงพาณิชย์ต้องเชิญสมาคมที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อมูลด้วย  เพื่อให้สมาคมไปแจ้งข่าวสารต่อสมาชิกของตนเอง หากรายใดพร้อมโดยมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศอย่างถูกต้องและชัดเจนก็สามารถเสนอตัวมาที่กระทรวงพาณิชย์ได้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ส่งออกทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน

สำหรับราคาข้าวขณะนี้ที่เริ่มปรับตัวลดลงนั้น นายนิพนธ์ ยืนยันว่าเป็นเพียงผลทางจิตวิทยาเท่านั้น เพราะการระบายข้าวของรัฐบาลไม่ได้หมายความว่าเมื่ออนุมัติไปแล้วจำนวน 1.6 ล้านตัน แล้วจะนำข้าวออกมาในระบบทันทีทั้งหมดเพราะผู้ซื้อจะทยอยมารับข้าวเป็นรอบ ๆ ไป ขณะเดียวกันราคาข้าวที่ลดลงก็มีผลต่อเกษตรกรน้อย เพราะส่วนใหญ่ต่างขายข้าวออกมากันหมดแล้ว ดังนั้น จึงเหลือข้าวเพียงส่วนหนึ่งในภาคกลางเท่านั้น และมีจำนวนไม่มาก โดยแนวโน้มราคาข้าวจะปรับสูงขึ้นตามความต้องการแน่นอน เพราะปัจจุบันประเทศคู่แข่งต่างได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ  ทำให้มีผลผลิตข้าวเข้าสู่ตลาดน้อยไม่ว่าจะเป็นจีน หรือเวียดนาม หรือแม้แต่ผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซีย ก็น้อยลง

“ส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลยังมีช่องว่างอีกจำนวนมากที่จะระบายข้าวในสตอกของรัฐบาลออกมามากกว่าเป้าหมาย    ที่กำหนดไว้ เพราะยังมีความต้องการในตลาดอีกมาก รวมทั้งการระบายข้าวออกมาในขณะนี้ยังเป็นการรองรับผลผลิตในฤดูใหม่ที่กำลังจะออกมาในปลายปีด้วย ที่สำคัญยังทำให้รัฐบาลลดภาระงบประมาณเรื่องการเช่าโกดังเพื่อเก็บรักษาข้าวได้อีกทางหนึ่งด้วย” ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี กล่าว

ที่มา สำนักข่าวไทย