นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกข้าวของไทยในช่วงนี้ ว่า ขณะที่ทางสมาคมฯกำลังรอดูว่าจะมีคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศจะเข้ามาหรือไม่ ซึ่งยังไม่มีความเคลื่อนไหวในเวลานี้ โดยปริมาณข้าวที่ส่งออกตั้งแต่ต้นปีจนถึงประมาณกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ก็อยู่ที่ประมาณ 2.2 ล้านตัน เป็นจำนวนที่ค่อนข้างจะตกต่ำเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นในปีนี้ทั้งปีคาดว่าทางสมาคมคงจะต้องปรับเป้าการส่งออกจาก 9 ล้านตัน เหลืออยู่ที่ประมาณ 8-8.5 ล้านตัน จะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
สำหรับราคาข้าวเปลือกในประเทศยังมีแนวโน้มเริ่มที่จะอยู่ตัว เพราะตอนนี้ราคาความจริงก็ปรับตัวต่ำลงมาค่อนข้างมาก และที่ผ่านรัฐบาลได้มีการใช้มาตรการช่วยเหลือ ทำให้ทางโรงสีได้มีความยืดหยุ่นในการรับซื้อข้าวทำให้ราคากระเตื้องขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่มากพอ ปัจจัยที่จะมาเปลี่ยนให้ข้าวมีราคาสูงขึ้นได้ หากว่าราคาตลาดข้าวนึ่ง มีเสถียรภาพมากขึ้นจะทำให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจกลับมาซื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่ยังเป็นตัวที่ต้องดูกันต่อไป ปัจจัยที่สองคือ ภูมิอากาศ ซึ่งถ้าหากว่าความแห้งแล้งเกิดขึ้นมากกว่านี้ในระหว่างนี้จนถึงสิ้นปี จะมีเหตุการณ์ภัยพิบัติอะไรเกิดขึ้นจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ข้าวปรับตัวสูงขึ้นได้อีก
อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาเรื่องราคาข้าวในประเทศ ในส่วนตัวมองว่าการช่วยเหลือชาวนา โดยการลงทะเบียนชาวนาเท่านั้นไม่พอ ต้องเข้าไปดูรายละเอียดในเชิงลึกเพื่อจะให้การช่วยเหลือได้ถูกจุด ส่วนการประกันรายได้เป็นสิ่งที่สมาคมฯสนับสนุนมาก เพราะจะไม่ต้องเอาสต็อกข้าวมาอยู่ในคลังของรัฐบาล ซึ่งจะบิดเบือนกลไกการตลาดน้อยกว่าการจำนำอย่างมาก
ที่มา สยามรัฐ
|