เมื่อวันที่ 31 ส.ค. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ชาวนาลดพื้นที่การปลูกข้าวในประเทศลง เพื่อกระตุ้นราคาซื้อขายข้าวในตลาดโลกให้สูงขึ้นตามนโยบายเพิ่มรายได้ เกษตรกรของภาครัฐ โดยหากไทยผลิตข้าวได้มาก จนตลาดไม่ตอบสนองการซื้อข้าวราคาสูง คงต้องลดปริมาณ และนำพื้นที่ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น ปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นที่สร้างรายได้สูงกว่าแทน เช่น อ้อย มันสำปะหลัง นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนร่วมมือกับหอการค้าไทย ในการวางแผนการเพาะปลูกสินค้าเกษตรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วย
“ถ้าข้าว ยังคงขายได้ราคา ก็คงจะผลิตต่อ แต่ถ้าราคาไม่ขึ้น ก็อาจต้องปลูกให้น้อยลง เพื่อช่วยผลักดันให้ราคาข้าวในตลาดสูงขึ้น และรัฐบาลจะช่วยดูเรื่องต้นทุน ซึ่งถ้าเราปลูกน้อย แต่มีรายได้สูงกว่า ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี” นายกิตติรัตน์ กล่าว
ส่วนการเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 54/55 นั้น คาดจะเปิดโครงการเร็วขึ้นเป็นวันที่ 15 ต.ค.54 เร็วกว่าเดิมที่กำหนด 1 พ.ย. และในวันที่ 1 ก.ย. 54 กระทรวงพาณิชย์จะประชุมร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งจากภาครัฐ และเอกชน เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการรับจำนำข้าว ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาภายในเดือนก.ย.นี้
สำหรับการดูแลราคาข้าวสารสำหรับผู้บริโภคนั้น กระทรวงฯ จะจัดทำข้าวสารบรรจุถุงธงฟ้าขายราคาถูกให้ประชาชน เพราะหลังจากที่รัฐบาลได้เริ่มโครงการรับจำนำข้าวเปลือกแล้ว ราคาข้าวจะสูงขึ้น หากไม่เข้าไปดูแล จะทำให้ราคาข้าวสารถุงสูงขึ้น และกระทบกับประชาชนแน่นอน
ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
|