นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมมั่นใจว่าการส่งออกข้าวไทยยังคงอยู่ในระดับดีตลอดทั้งปี เนื่องจากหลายประเทศประสบปัญหาภัยธรรมชาติ อีกทั้งเพลี้ยระบาดทำให้ปริมาณข้าวลดด้วย รวมถึงฟิลิปปินส์จะมีการเปิดประมูลข้าวซื้อข้าวถึง 2 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกมีราคาสูงขึ้น
ขณะที่ขณะนี้ข้าวไทยมีราคาสูงกว่าข้าวเวียดนามไม่มาก ประมาณตันละ 20-30 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ประเทศผู้นำเข้าข้าวเลือกที่จะนำเข้าข้าวจากไทยมากขึ้น เพราะระดับราคาใกล้เคียงกัน อีกทั้งผู้นำเข้ามีความมั่นใจในคุณภาพข้าวไทยและการส่งมอบข้าวของไทย ส่วนสาเหตุที่ทำให้ข้าวไทยมีราคาใกล้เคียงกับเวียดนามส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลไทยเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ผู้ส่งออกมีความได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคามากขึ้น
นายมนัสกล่าวต่อว่า ในช่วงไตมาสแรกของปีนี้ไทยส่งออกข้าวเฉลี่ยเดือนละประมาณ 1 ล้านตัน รวมทั้งสิ้นประมาณ 3.05 ล้านต้น เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,724 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นรูปเงินไทยประมาณ 52,049 ล้านบาท โดยมีราคาส่งออกเฉลี่ยตันละ 571 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในปีนี้ 2554 คาดว่าการส่งออกข้าวไทยจะเป็นไปตามเป้าหมายการส่งออกที่ตั้งไว้ที่ปริมาณ 9-9.5 ล้านตัน มูลค่า 5,300-5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดส่งออกข้าวไทยที่สำคัญ ได้แก่ อินโดนีเซีย ไนจีเรีย บังกลาเทศ อิรัก อิหร่าน แอฟริกาใต้ มาเลเซีย จีน กานา และสหรัฐอเมริกา
ส่วนชนิดข้าวที่ส่งออกประกอบด้วยข้าวขาวประมาณ 1.4 ล้านตัน ข้าวนึ่งประมาณ 0.8 ล้านตัน ข้าวหอมมะลิประมาณ 0.5 ล้านตัน ปลายข้าวประมาณ 0.1 ล้านตัน ข้าวเหนียวประมาณ 0.07 ล้านตันข้าวหอมปทุมธานีประมาณ 0.05 ล้านตัน
ที่มา คมชัดลึก
|