เมื่อวันที่ 6 ต.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมมอบนโยบายการดำเนินโครงการการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด พาณิชย์จัง หวัด และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยว ข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดโครงการฯ วันที่ 7 ต.ค.2554
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีครั้งนี้ เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งถือว่าเป็นการเดิมพันตามที่นโยบายของรัฐบาลที่จะรับจำนำทุกเม็ด โดยไม่จำกัดจำนวน และมูลค่าในครั้งนี้คิดว่าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการรับจำนำครั้งนี้มีปริมาณมาก เช่น ในกรณีที่ชาวนานำข้าวเข้ามาที่โรงสี และไม่สามารถจำนำได้ หรือถูกจำ กัดปริมาณรับจำนำ จนทำให้เกิดปัญหา ดังนั้นในพื้นที่ที่มีโรงสีไม่มาก ก็จำเป็นต้องบริหารจัดการ และ ควรกระจายโรงสีให้มากที่สุด ส่วน การป้องกันการทุจริตนั้น ควรป้อง กันตั้งแต่ขั้นตอนแรก โดยต้องบูร ณาการร่วมกันจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นางพรรณพิมล ชัญญานุวัตร อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ออกหนังสือ รับรองให้เกษตรกรไปแล้ว 700,000 ใบ จากผู้ที่ร่วมลงทะเบียนแล้ว 3.2 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 25% ถือว่าเป็นปริมาณที่ไม่น้อย เพราะจะครอบ คลุมช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.2554 และยืนยันว่าในการจำนำวันที่ 7 ต.ค.นี้ จะมีความพร้อม 100%
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า หลังจากที่ชาวนานำใบประทวนมายื่นให้กับ ธ.ก.ส.แล้ว จะรับเงินมายื่นให้กับ ธ.ก.ส.แล้ว จะรับเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรภายใน 3 วัน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในช่วงเดือน ต.ค.นี้ น่าจะมีข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำประมาณ 8-9 แสนตัน จากปริมาณข้าวทั้งหมด 22 ล้านตัน ซึ่งลดลงจาก 25 ล้านตัน หลังเกิดปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ในตอนนี้
สำหรับวงเงิน 4.3 แสนล้านบาท ที่จะใช้ในการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าว ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว
นายบุญช่วย เจียรดำรงชัย รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. ประเมินว่า สภาพคล่องของธนาคารที่จะใช้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี น่าจะใช้ได้ถึงกลางเดือน พ.ย.นี้เท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่น่าจะมีข้าวมาจำนำมาก โดยเพื่อไม่ให้มีความเสี่ยง ก็ได้เตรียมแผนการเงินไว้แล้ว ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการกู้ เพื่อให้ทันกลางเดือน พ.ย.
ด้านนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริ หารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า กระบวนการกู้เงินมาใช้จำนำข้าวนั้น ต้องรอให้ ธ.ก.ส.เสนอเรื่องขอกู้มาให้ชัดเจนก่อนว่าจะใช้วงเงินเท่าใดแน่ จากนั้นจะต้องเสนอขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ ซึ่งจะต้องปรับแผนก่อหนี้ปีงบประมาณ 2555 ด้วยในกรณีที่ค้ำประกันเงินกู้ให้ ธ.ก.ส.เพิ่ม เพราะ แผนเดิมที่ ครม.อนุมัติไปแล้วยังไม่ได้รวมกรณีนี้
ทั้งนี้ ในกรณีหากมีการเสนอ ขอกู้มาเต็มวงเงิน 3.2 แสนล้านบาท คงไม่กู้ครั้งเดียว แต่จะใช้วิธีทยอยกู้ ตามความต้องการใช้เงินแต่ละช่วง ตามความต้องการใช้เงินแต่ละช่วง เช่น ครั้งละ 3 หมื่นล้านบาท เป็นต้น โดยจะเปิดให้ธนาคารพาณิชย์ร่วมประมูล ซึ่งจะเป็นการกู้ระยะสั้นไม่ เกิน 1 ปี ปัจจุบันดอกเบี้ยอยู่ประ มาณ 3.5-3.6% ต่อปี
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
|