นายชาญชัย รักษ์ธนารักษ์ นายก สมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวยอมรับว่า ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ส่ง ผลกระทบต่อการส่งออกข้าวบ้างแล้วเนื่องจากการขนส่งทางน้ำในเส้นทางหลัก คือแม่น้ำเจ้าพระยาไม่สามารถเดินเรือได้และโกดังส่วนใหญ่ก็อยู่ในจังหวัดแถบภาคกลางที่ต้องอาศัยการเดินเรือทางแม่น้ำเจ้าพระยา และหากน้ำยังไม่ลดในอีก 2 เดือน ก็จะยิ่งส่งผลกระทบเพราะไม่สามารถขนส่งข้าวได้

รวมทั้งผลผลิตที่ลดลงจากน้ำท่วม ก็ทำให้ข้าวขาดตลาด และโกดังในภาคกลาง 5-6 แห่งจมน้ำ บางแห่งมีข้าวกว่า 4 พันตัน ได้รับความเสียหายทั้งหมด อย่างไรก็ตามก็คาดว่าชาวนาจะสามารถปลูกข้าวลอตใหม่ออกมาชดเชยได้ ซึ่งรัฐบาลเองต้องมีการบริหารจัดการเรื่องการระบายข้าวที่มีประสิทธิภาพเพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตข้าวและส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนระบายข้าวเพราะทุกประเทศทั่วโลกต้องมาซื้อข้าวจากไทยอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีผลผลิตข้าวออกมาจำนวนมากรวมแล้วกว่า 10 ล้านตัน ซึ่ง คาดว่าส่วนใหญ่ชาวนาจะเลือกขายข้าวเอง แทนการนำข้าวเข้าโครงการรับจำนำ เพราะมีความยุ่งยากในการจัดเตรียมเอกสาร และบางพื้นที่ไม่สะดวกในการเดินทาง เพราะปัจจุบันแม้จะการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่ออนุญาตให้มีการรับจำนำข้ามเขตแล้วก็ตาม ซึ่งสมาคมเห็นว่าเรื่องดังกล่าวควรให้โรงสีเข้ามามีส่วนร่วมเพราะอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว และควรลดเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคในการรับจำนำลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำท่วมด้วย

นอกจากนี้รัฐบาลควรเปิดรับจำนำข้าวยุ้งฉางด้วย เพราะที่ผ่านมารัฐบาลชุดก่อนๆ เคยเปิดรับจำนำมาก่อนซึ่งเป็นผลดี ที่ทำให้ชาวนาไม่ต้องเร่งขายข้าว แต่เลือกที่จะเก็บไว้ในยุ้งฉาง และแบ่งขายในช่วงราคาที่เหมาะสมและมีการเก็บรักษาพันธุ์ข้าวไว้บริโภคและปลูกในฤดูกาลต่อไป แต่การที่รัฐบาลกำหนดว่าข้าวที่จะรับจำนำต้องเป็นข้าวใหม่เท่านั้น ทำให้ชาวนาที่ต้องการเงินจำนวนมากเลือกที่จะนำข้าวที่เก็บเกี่ยวได้เข้าโครงการให้มากที่สุดเพราะได้ราคาดี ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อชาวนาเองเพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องซื้อข้าวเพื่อบริโภคในราคาที่สูง และยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารของประเทศในอนาคต

ตอนนี้ทั้งโรงสี ชาวนาเห็นว่าโครงการรับจำนำมีขั้นตอนที่ยุ่งยากจึงไม่สนใจร่วมโครงการจึงเลือกซื้อ ขายข้าวกันเองแม้จะมีราคาต่ำกว่าราคาที่รับจำนำแต่เพื่อความสะดวกได้เงินเร็วทำให้ชาวนาเลือกที่จะขายข้าวโดยตรงกับโรงสี ส่วนโครงการรับจำนำก็น่าห่วงว่าอาจมีโรงสี ไม่เพียงพอในการรองรับข้าวในโครงการเพราะบางส่วนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และบางส่วนก็เห็นว่าขั้นตอนการรับจำนำยุ่งยากและไม่อยากตกเป็นจำเลยข้อหาทุจริตจึงเลือกที่จะซื้อข้าวโดยตรงกับชาวนาดีกว่าเพื่อความสบายใจแทนการเข้าร่วมโครงการรับจำนำโดยปัจจุบันมีโรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำ 300-400 โรงเท่านั้น นายชาญชัย กล่าว

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า