นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ระบายข้าวสต็อกรัฐไปแล้ว 4 ล้านตัน จากปริมาณสต็อก 5 ล้านตันในช่วงที่ผ่านมา โดยขายในราคาต่ำกว่าราคาตลาดขณะนั้นเพียง 16% ราคาตันละ 1.3-1.4 หมื่นบาท พ่อค้าส่งออกที่ซื้อไปได้กำไรไม่มากนัก เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายค่าขนส่งและปรับปรุงสภาพข้าว ซี่งแตกต่างจากในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ที่มีการขายข้าวต่ำกว่าราคาตลาด 33%

"มั่นใจได้ว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ขายข้าวในราคาเสียเปรียบเกินไป ที่ผ่านมาใช้วิธีการเจรจาขายข้าวทางลับ ซึ่งพบว่าได้ผลดี เพราะขณะนี้ราคาข้าวได้ทยอยปรับเพิ่มสูงขึ้น"

ขณะที่มีหลายประเทศสนใจสั่งซื้อข้าวจากไทยเพิ่ม เช่น อินโดฯ 5 แสนตัน บรูไน 2 แสนตัน มาเลเซีย 2 แสนตัน ไนจีเรีย 5 แสนตัน ซึ่งรัฐบาลจะมีการพิจารณาขายข้าวออกไปเฉลี่ยให้กับแต่ละประเทศ โดยคงเหลือสต็อกรัฐบาลไม่เกิน 1 แสนตัน ซึ่งสต็อกดังกล่าวสำรองไว้กรณีขาดแคลนสำหรับคนยากจน

นางปราณี ศิริพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า สำนักงานการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รายงานว่า ในปี 2554 รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนที่จะอนุญาตให้มีการนำเข้าข้าวชนิดพิเศษ (Special Rice) ปริมาณ 200,000 ตัน จากต่างประเทศ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิของไทย ข้าวบาสมาติของอินเดีย ข้าวสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน (Diabetic Rice) และข้าวเหนียวดำ รวมทั้งจะอนุญาตให้มีการนำเข้าแป้งข้าวเจ้าอีก จำนวน 30,000 ตัน

ทั้งนี้ที่ผ่านมาข้าวหอมมะลิไทยได้ถูกจำกัดการนำเข้าโดยรัฐบาลอินโดนีเซีย ซึ่งกำหนดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก ส่งผลให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสถิติการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปอินโดนีเซียมีปริมาณน้อยมาก

รายงานล่าสุดระบุว่า ภาคเอกชนไทยสามารถชนะการประมูลซื้อข้าวรัฐบาลอินโดนีเซีย ปริมาณ 280,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปริมาณ 219,643 ตันปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 273% เป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่าเป็นโอกาสดีของข้าวไทย ที่จะขยายปริมาณการส่งออกไปยังอินโดนีเซียเพิ่มมากขึ้น

อินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวจากต่างประเทศประมาณ 1-1.5 ล้านตันต่อปี โดยข้าวไทยครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสองรองจากเวียดนาม และข้าวที่นำเข้าจากไทยมากที่สุด คือ ข้าวขาวและข้าวเหนียว

การส่งออกข้าวของไทย ณ วันที่ 4 ก.พ. 2554 ได้ส่งออกแล้วปริมาณ 1,038,262 ตัน เพิ่มขึ้น 26% มูลค่า 18,211 ล้านบาท หรือ 608 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.17%

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ