ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารับจำนำข้าวเปลือกนาปีการผลิต 2554/55 วันแรก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดศูนย์บริหารการจัดการโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรตามนโยบายรัฐบาล (Operation Room) ณ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายในเข้าร่วม
ภายหลังจากที่รับฟังรายงานแล้ว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในที่ประชุมว่า ต้องการให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ และมีทางเลือกที่จะนำข้าวมารับจำนำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า โครงการรับจำนำในรอบนี้ อาจทำให้เกษตรกรที่ร่วมโครงการมีความยุ่งยากในขั้นตอนการปฏิบัติ เพราะรัฐบาลได้ปรับปรุงขั้นตอนเพิ่มขึ้น เพราะต้องการให้กระบวนการรับจำนำข้าวในครั้งนี้มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมกับมอบหมายให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รวมทั้งกรมการค้าภายใน ช่วยตรวจสอบด้วยว่า ยังมีสิ่งใดบ้างที่ต้องปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม
สำหรับโอเปอเรชันรูมที่ได้ทำพิธีเปิดในวันนี้จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการประสานงาน ติดตาม ประเมินและรายงาน รวมทั้งเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทั้งระบบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ นำเสนอได้แบบ Real Time
"อยากจะฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้ติดตามและป้องกันการสวมสิทธิ์ หรือการนำข้าวมาเวียนเทียนซ้ำเพื่อป้องกันความเสียหายของภาครัฐ รวมถึงการเอาเปรียบเกษตรกร"นายกรัฐมนตรีย้ำ
ให้รับก่อนสอยทีหลัง
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการประชุมชี้แจงผู้ประกอบการโรงสี และตลาดกลาง ว่า ได้ให้นโยบายหลักๆ คือ หากเกษตรกรนำข้าวมาจำนำเกินที่แจ้งปริมาณผลผลิตไว้ ให้ โรงสีรับจำนำไว้ทั้งหมด โดยกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป หากพบใครทุจริตและประพฤติมิชอบในโครงการรับจำนำข้าว ต้องถูกเล่นงาน อีกทั้งถ้าใครกังวลว่าโครงการนี้จะไม่เรียบร้อย ก็ให้ช่วยกันจับตาดู โดยรัฐบาลจะทำให้เต็มที่ ในด้านการรับรองโรงสีที่เข้าร่วมโครงการจะทยอยรับรอง หากโรงสีผ่านเกณฑ์ได้รับรองก็สามารถปฏิบัติงานได้ทันที
ทั้งนี้โรงสีรับจำนำข้าวที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการนั้น จะรับจำนำข้าวเปลือกจากเกษตรกรได้ไม่เกิน 30 เท่า ของกำลังการผลิต โดยโรงสีจะต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 50% ของมูลค่าข้าวที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนกรณีการรับจำนำข้ามเขตจะต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 100%
พาณิชย์พบจำนำสูงผิดปกติ
ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ"ได้สอบถามไปยังโอเปอเรชันรูมของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อสอบถามถึงผลการรับจำนำข้าววันแรก รวมถึงปัญหาอุปสรรค เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์แจ้งว่าอยู่ระหว่างประมวลผลจากทุกจังหวัด รวมถึงต้องตรวจสอบกลับข้อมูลของแต่ละจังหวัดให้มีความชัดเจนอีกครั้ง และจะได้สรุปผลนำเสนอต่ออธิบดีกรมการค้าภายในจึงจะประกาศผลอย่างเป็นทางการได้ในวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ดีจากข้อมูลพบว่าบางจังหวัดมีปริมาณข้าวเข้าร่วมโครงการสูงผิดปกติ ซึ่งจะได้ตรวจสอบอีกครั้งถึงที่มาของข้าว
เร่งเกษตรกรขึ้นทะเบียน
นางพรรณพิมล ธัญญานุวัตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 3.2 ล้านครัวเรือน จากจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 3.7 ครัวเรือนได้ออกใบรับรองแล้วประมาณ 700,000 ใบ ทั้งนี้จะเร่งขึ้นทะเบียนและออกใบรับรองให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 อย่างไรก็ดีจากพื้นที่ปลูกข้าวนาปีที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมที่ทางกระทรวงเกษตรฯได้สำรวจแล้วพบว่ามีประมาณ 7 ล้านไร่ คิดเป็นปริมาณข้าวเปลือกที่เสียหายประมาณ 3 ล้านตันทำให้ข้าวนาปีในฤดูการผลิต 2554/55 ที่คาดว่าจะมีประมาณ 25 ล้านตันจะเหลือเพียง 22 ล้านตัน
"ในใบประทวนที่เกษตรกรจะได้รับเพื่อนำไปขึ้นเงินโครงการรับจำนำข้าว จะมีการระบุพื้นที่ปลูกจริง วันที่ปลูก วันเก็บเกี่ยว ชนิดและปริมาณของพันธุ์ข้าว เพื่อป้องกันการทุจริต"
700 โรงสีแห่ร่วมโครงการ
สำหรับนายกมลวิศว์ แก้วแฝก กรรมการ อ.ต.ก.รักษาการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) กล่าวว่า ในส่วนของ อ.ต.ก.ล่าสุด ได้มีโรงสีมาสมัครเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2554/55 รวม 200 โรงสี ได้ทำสัญญาพร้อมเปิดรับข้าวจากชาวนาแล้วทั้งสิ้น 10 จังหวัดรวม 40 โรง (ตัวเลข ณ 6 ต.ค.54) แบ่งออกเป็นภาคเหนือ 3 จังหวัดรวม 26 โรง ส่วนภาคตะวันออกมี 1 จังหวัดที่ฉะเชิงเทรา มี 2 โรง ในภาคกลาง และภาคตะวันตกมี 5 จังหวัด รวม 12 โรง และภาคตะวันตก มี 2 โรง ส่วนที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการทำสัญญา
นายกมลวิศว์ กล่าวอีกว่าในส่วนของบริษัทตรวจสอบและรับผิดชอบคุณภาพข้าวสารที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว หรือ เซอร์เวเยอร์ ที่เสนอตัวเข้าร่วมโครงการแล้วในเวลานี้มี จำนวนถึง 16 บริษัท
"ในครั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์ อ.ต.ก.หลังจากที่เคยมีเรื่องไม่ดีในโครงการรับจำนำลำไย ซึ่งได้กำชับให้พนักงานทุกคนทำงานอย่างเต็มที่และโปร่งใส ซึ่งการรับจำนำครั้งนี้ถือว่ามีมาตรการที่ค่อนข้างรัดกุมมาก แต่ที่เป็นห่วงคือเรื่องส่งมอบข้าวสารผิดประเภท คือ โรงสี สีแปรข้าว 5% แต่มาส่งมอบเป็น 10 % หรือ 15% ต้องระวังในส่วนนี้ นอกจากนั้นยังกังวลปัญหาน้ำท่วมที่จะทำให้เกษตรกรไม่สามารถเก็บเกี่ยวข้าวมาจำนำได้”
ด้านนายพิทีรต์ ตังพสสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.)กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรงสีในเขตภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก (ยกเว้นภาคใต้ ยังไม่มีโรงสีใดมาสมัคร เพราะโครงการยังไม่เปิด) มาสมัครเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกกับ อคส.ทั้งสิ้น 493 โรง ขณะนี้ อคส. ได้ทำสัญญาเสร็จสิ้นแล้ว 183 ราย พร้อมเปิดจุดรับจำนำ
สุพรรณวันแรกกร่อย
ขณะที่ผู้สื่อข่าว รายงานบรรยากาศการรับจำนำข้าววันแรก ที่โรงสีพูนทรัพย์ถาวรสมบูรณ์ จำกัด จ.สุพรรณบุรีว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงาเพราะมีฝนตกตั้งแต่ช่วงกลางคืนต่อเนื่องถึงเช้าวันนี้ จนถึงเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันนี้ (7 ต.ค.54) มีเกษตรกรเพียง 1 รายที่นำข้าวเปลือกมาเข้าร่วมโครงการ คือของพนม ธรรมเนียม เกษตรกร โดยตรวจวัดความชื้นข้าวได้ที่ 28.5% ทำให้ได้รับค่าข้าวตันละ 11,803 บาท รวมกว่า 13 ตันได้รับใบประทวนค่าข้าวเป็นเงินรวมกว่า 150,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวบอกพอใจมาก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับค่าข้าวถึงตันละ 10,000 บาทขณะเดียวกันยังมีข้าวอีกกว่า 40 ไร่ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เพราะเป็นที่ที่ไม่มีโฉนด หรือ น.ส.3
ข้าวเอเชียจมบาดาล 9.25 ล้านไร่
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า นาข้าวเกือบ 9.25 ล้านไร่ ครอบคลุมทั้งในไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว กำลังได้รับความเสียหายหรือเสี่ยงได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดของภูมิภาคนี้ในรอบหลายปี โดยเฉพาะไทย ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก มีนาข้าวจมอยู่ใต้กระแสน้ำราว 6.25 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 10% ของทั้งประเทศ นอกจากนี้ฝนตกหนักยังทำให้นาข้าวกว่า 2.6 ล้านไร่ ในกัมพูชาจมอยู่ใต้น้ำด้วยเช่นกัน ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 625,000 ไร่พังเสียหายทั้งหมด ส่วนลาว ก็มีนาข้าวได้รับความเสียหายกว่า 375,000 ไร่ ล่าสุดน้ำท่วมที่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขงในเวียดนาม นาข้าวเกือบ 620,000 ไร่ เสี่ยงได้รับความเสียหาย ความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับหลายฝ่ายที่กำลังวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อราคาข้าวในตลาดโลกจากโครงการรับจำนำข้าวของไทย
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
|