นายโรเบิร์ต ซีกเลอร์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กเมื่อวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) ว่า ราคาข้าวมักเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาข้าวสาลี โดยราคาข้าวสาลีเริ่มพุ่งขึ้นเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว และราคาข้าวก็ไต่ระดับขึ้นตาม
ราคาข้าวสาลีในสัปดาห์นี้พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ท่ามกลางความกังวลว่า ภาวะแห้งแล้งในจีนอาจทำให้ผลผลิตน้อยลง และกระตุ้นการแย่งชิงสต็อกทั่วโลก
นายโรเบิร์ต เซลลิค ประธานธนาคารโลก เตือนว่า ประชาชนผู้ยากไร้ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากต้นทุนราคาอาหารที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว
นายเซลลิค กล่าวว่า ราคาอาหารมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเหมือนเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว และสร้างแรงกดดันต่อกลุ่มที่เปราะบางที่สุด ประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาต้องใช้จ่ายเงินประมาณ 3 ใน 4 ของรายได้ สำหรับซื้อหาอาหาร ดังนั้นจึงแทบไม่เหลือเงินเก็บ
นายซีกเลอร์ ซึ่งมีประสบการณ์วิจัยการเกษตรมานานกว่า 3 ทศวรรษ กล่าวว่า หากผลผลิตข้าวสาลีลดลง ผู้บริโภคจะหันหาอาหารอื่นทดแทน ซึ่งข้าวเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณการแห่ซื้อข้าว
ราคาข้าวที่พุ่งขึ้นอาจเพิ่มแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อทั่วเอเชีย แม้ผู้กำหนดนโยบายหลายประเทศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมดัชนีราคาผู้บริโภค โดยธนาคารกลางจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือน เมื่อวันอังคาร (8 ก.พ.) ส่วนธนาคารกลางอินเดีย อินโดนีเซีย และไทย ก็ดำเนินนโยบายเข้มงวดทางการเงินมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์หลายราย รวมถึงนายไบรอน วีน จาก แบล็กสโตน กรุ๊ป ทำนายว่า ราคาโภคภัณฑ์การเกษตรจะพุ่งขึ้นในปี 2554 และนายวีนทำนายเมื่อเดือนที่แล้วว่า ราคาข้าวสาลีอาจขึ้นไปแตะระดับ 10 ดอลลาร์ต่อบุชเชลในปีนี้ เมื่อมาตรฐานการดำรงชีวิตที่ดีขึ้นของประเทศกำลังพัฒนา ทำให้เกิดความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์การเกษตรเพิ่มขึ้น
ทางด้านนายอับดุลเรซา อับบาสเซียน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) กล่าวว่า ผลผลิตข้าวสาลีทั่วโลก อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ซึ่งจะกระตุ้นการกักตุนมากขึ้น แต่ความแห้งแล้งในจีนอาจลดโอกาสสร้างสต็อกอาหารเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทั่วโลกกังวลกับราคาอาหารแพงขึ้น เวียดนามกลับวิตกกับราคาข้าวตกต่ำ โดยสมาคมอาหารเวียดนาม ซึ่งมีสมาชิก 60 ราย วางแผนซื้อข้าวสะสม 1 ล้านตัน เพื่อช่วยค้ำจุนตลาด
นายจวง ตานห์ พง ประธานสมาคมอาหารเวียดนาม กล่าวว่า ผู้ส่งออกไม่กระตือรือร้นที่จะซื้อข้าวจากเกษตรกร เนื่องจากไม่ค่อยมีการทำสัญญากับผู้นำเข้า ดังนั้น ราคาข้าวในเวียดนามจึงมีระดับต่ำ ขณะที่เกษตรกรแถบสามเหลี่ยมแม่น้ำโขงเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต แผนการซื้อข้าวครั้งนี้จะช่วยให้เกษตรกรมีกำไรอย่างน้อย 30%
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|