นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาส่งออกข้าวขาวไทยยังทรงตัวอยู่ในระดับ 470-480 เหรียญสหรัฐ/ตัน แม้ว่าประเทศอินเดียและจีนจะชะลอการส่งออกข้าวปีนี้แล้ว แต่เนื่องจากตลาดส่งออกข้าวยังแข่งขันสูง โดยเฉพาะเวียดนาม

ขณะนี้เวียดนามส่งออกข้าวได้แล้ว 2.8 ล้านตัน ทำให้ไทยไม่สามารถปรับเพิ่มราคาส่งออกได้มาก เพราะประเทศผู้ซื้อจะหันไปซื้อจากเวียดนาม หรือประเทศอื่นแทน

นอกจากนี้ ตลาดข้าวนึ่งเดิมคาดการณ์กันว่าเมื่ออินเดียหยุดส่งออกตลาดข้าวนึ่งทั้งหมดจะเป็นของไทยแต่บราซิลซึ่งปีนี้มีผลผลิตข้าวออกมาก หันมาทำตลาดข้าวนึ่งส่งออกไปตลาดไนจีเรีย ทำให้แย่งตลาดข้าวนึ่งไทย เพราะราคาของบราซิลค่อนข้างได้เปรียบ ขายแค่ตันละ 470 เหรียญสหรัฐ ต่างกับข้าวนึ่งไทยขายอยู่ที่ตันละ 500-510 เหรียญสหรัฐ

สาเหตุอีกประการที่ทำให้ราคาข้าวขยับไม่ได้ เพราะสต๊อกข้าวที่รัฐบาลระบายให้กับผู้ส่งออกก่อนหน้านี้ 4 ล้านตัน เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ปริมาณครึ่งหนึ่งก็ยังไม่สามารถระบายออกในตลาดได้ ทำให้ผู้ส่งออกมีสต๊อกข้าวในมือเพียงพอ จึงไม่จำเป็นต้องเร่งซื้อข้าวในตลาดเพิ่ม ราคาข้าวจึงทรงตัวไปโดยปริยาย

"ราคาข้าวส่งออกของเวียดนามขยับสูงกว่าข้าวไทย โดยข้าวขาวเวียดนามอยู่ที่ 480 เหรียญสหรัฐ/ตัน ข้าวขาวไทย 470-480 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็นเรื่องที่นานๆ จะเกิดขึ้น เชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้น หรือ 1-2 เดือนจะคลี่คลาย"นายชูเกียรติ กล่าว

นายชูเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ปีนี้ผลผลิตข้าวของไทยจะเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศและส่งออก แม้ว่าปัจจุบันการส่งออกข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นมาก โดยส่งออกได้แล้ว 4 ล้านตัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านตัน จากผลผลิตข้าวไทยปีนี้ที่มีมากถึง 20 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งส่งออกทั้งปีมากสุดไม่น่าจะเกิน 10 ล้านตัน ที่เหลือเป็นการบริโภคภายในประเทศ อีกทั้งสต๊อกข้าวรัฐบาลยังมีเหลือ 1-2 ล้านตันและสต๊อกข้าวเอกชน 2 ล้านตัน

อย่างไรก็ตาม หากเกิดภาวะตึงตัวทั้งด้านปริมาณและราคา กลไกตลาดจะทำงานด้วยตัวเอง เพราะเมื่อราคาข้าวในประเทศและส่งออกสูงขึ้น ตลาดผู้ซื้ออาจชะลอคำสั่งซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์ การส่งออกจะปรับตัวลดลงมา และมีปริมาณข้าวเข้าสู่ตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น

ที่มา โพสต์ทูเดย์