www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

สมาคมโรงสีข้าวห่วงประกันข้าว 1.5 หมื่นบาท ส่งผลข้าวราคาพุ่ง แต่ รบ.ขาดทุน


วันที่ 12 ก.ค. ที่ จ.นครราชสีมา นายหัสดิน สุวัฒนพงศ์เชฎ เจ้าของโรงสีเอกวัฒนาพืชผล อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ในฐานะกรรมการสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่าว่า สำหรับนโยบายหนึ่งที่สำคัญของรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ที่จะมีโครงการประกันราคาข้าวเปลือกที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท ทางภาคเอกชนโดยเฉพาะในส่วนของผู้ค้าข้าวยังไม่ได้รับความชัดเจนในเรื่องวิธีการขั้นตอนการดำเนินการรวมถึงรายละเอียดต่างๆของโครงการ จึงประเมินไม่ได้ว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดการค้าข้าวทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศอย่างไร

หากรัฐบาลมีวิธีการที่ต้องการจะเป็นผู้ลงมารับจำนำข้าวที่มีอยู่ทั้งประเทศไว้ทั้งหมด ด้วยราคาตันละ 1.5 หมื่นบาท ก็จะทำให้ราคาข้าวของไทยพุ่งสูงขึ้นอีก 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันโดยทันที จากราคาเดิม ณ ขณะนี้อยู่ที่ 500 ดอลลาร์ต่อตัน เพิ่มเป็น 800 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงปัญหาต่อไปที่จะเกิดขึ้นก็คือ การหาตลาดที่จะจำหน่ายในราคาที่รัฐบาลไม่ต้องขาดทุน 

ขณะนี้ราคาข้าวของประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้าข้าวของไทยก็มีราคาที่ต่ำกว่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และหากจะมีการประวิงเวลา หรือลดการส่งออกข้าวลงเพื่อให้ข้าวขาดตลาดและให้ราคาสูงขึ้น ก็ไม่สามารถที่จะทำได้นาน เพราะผลผลิตของเกษตรกรจะออกมาในช่วงที่ไล่เลี่ยกัน ซึ่งจะทำให้ผลผลิตที่ออกมาไม่มีพื้นที่จัดเก็บ เนื่องจากปัจจุบันผลผลิตข้าวเฉลี่ยของทั้งประเทศแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านตันข้าวเปลือก หรือหากนำมาแปรรูปเป็นข้าวสารก็จะอยู่ที่ 20 ล้านตันต่อปี โดยในจำนวนนี้จะมีการแบ่งออกจำหน่ายในประเทศและส่งออกต่างประเทศอย่างละครึ่ง ดังนั้น หากไม่มีการปล่อยข้าวออกสู่ตลาดแล้วรัฐบาลเองก็ไม่สามารถที่จะจัดหาสถานที่เก็บรักษาข้าวได้ทั้งหมด เนื่องจากปัจจุบันแม้ว่าจะมีการรวบรวมโกดังโรงสีข้าวที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งประเทศก็ไม่เพียงพอให้รัฐบาลได้จัดเก็บข้าวทั้งหมด เพื่อดึงราคาตลาดโลกให้สูงขึ้นได้ เพราะนอกจากจะทำให้รัฐบาลต่อแบกรับกับภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาเพิ่มขึ้นแล้วยังจะทำให้สินค้าเสียหายและด้อยคุณภาพลงไปอีกด้วย
  
นายหัสดินแนะว่ารัฐบาลควรทำให้รัฐบาลขาดทุนน้อยที่สุดซึ่งอาจจะทำโดยการที่รัฐบาลเป็นผู้รับจำนำข้าวจากเกษตรกรในราคาตันละ 1.5 หมื่นบาท ควบคู่กับไปการหาวิธีพยุงราคาอ้างอิงให้สูงขึ้นและจ่ายเงินส่วนต่างจากราคาอ้างอิงให้กับเกษตรกรไป เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จากนั้นก็อาจจะนำข้าวเปลือกที่ได้จากการรับจำนำมาแบ่งขายให้กับบรรดาโรงสีต่างๆครึ่งหนึ่งในราคาอ้างอิงเพื่อให้กลไกการค้าข้าวไม่หยุดชะงัก และมีข้าวออกสู่ท้องตลาดตามปกติ โดยที่รัฐบาลก็จะไม่ต้องแบกรับภาระเงินทุนทั้งหมด เพียงแค่จ่ายส่วนต่างให้กับเกษตรกรและรับเงินส่วนราคาตลาดคืนจากโรงสี เพื่ออย่างน้อยก็ยังได้เงินกลับคืนสู่ระบบ

จากนั้นข้าวที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งรัฐบาลก็สามารถที่จะเก็บไว้ เพื่อกำหนดราคาข้าวให้สูงขึ้นได้อีก ซึ่งวิธีนี้ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะต้องประสบกับภาวะขาดทุนอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็เป็นหนทางที่รัฐบาลจะดึงเม็ดเงินกลับคืนได้มากที่สุดและไม่ทำให้กลไกการค้าข้าวของไทยหยุดชะงักและเปิดช่องให้ประเทศคู่แข่งชิงความได้เปรียบทางการค้า

ที่มา ข่าวสด

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.