ที่พรรคเพื่อไทย วันที่ 12 ก.ค. เวลา 16.15น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะทำงานร่างกรอบนโยบายเศรษฐกิจว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อถามถึงความคืบหน้า ในแต่ละหัวข้อโดยเน้น 2 เรื่อง คือ 1.กรอบร่างนโยบาย ซึ่งเป็นทิศทางใหญ่ที่พรรคจะดำเนินการก่อนที่จะเสนอต่อประชาชน และ 2. นโยบายเร่งด่วน ซึ่งเรากำลังเริ่มทำในรายละเอียดแต่ละนโยบายที่เราได้ประกาศไว้กับประชาชน ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างไรได้บ้าง อย่างไรก็ตามบางนโยบายต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย

เมื่อถามว่านโยบายจำนำข้าวมีส่วนทำให้ประเทศอินโดนีเซียหันไปซื้อข้าวจากประเทศเวียดนาม ได้มีการกำหนดมาตรการรองรับแล้วหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก่อนที่เราจะตัดสินใจ คงต้องวางกรอบไว้ให้ครบทั้งขบวน การที่เราจะนำระบบรับจำนำข้าวกับมานั้น คงต้องดูในเรื่องของปริมาณต่างๆ รวมถึงข้าวที่มีการส่งออก และราคาที่เชื่อมโยงกับเพื่อนบ้าน ซึ่งทุกอย่างต้องดูผลกระทบทั้งหมดด้วย ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายรับจำนำข้าวจะทำให้ราคาข้าวของประเทศไทยสูงขึ้นนั้น ตนเห็นว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพอยู่แล้ว เราจึงต้องเน้นในเรื่องคุณภาพของข้าวไทย คงไม่เน้นในการทำราคาที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องหารือกันในเรื่องของคุณภาพการสร้างราคาต่างๆด้วย ซึ่งตามแผนในการทำนโยบายรับจำนำข่าวนั้น คงจะทำในรอบของการเก็บเกี่ยวครั้งหน้า ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้

เมื่อถามว่าขณะนี้ได้มีการกักตุนข้าวเป็นจำนวนมาก เพื่อเก็งกำไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนยังไม่อยากลงลึกในรายละเอียด เพราะเกรงว่าจะมีผลต่อการกักตุน หรือต่อราคา ดังนั้นจึงอยากขอให้เราเข้าไปทำทั้งหมดเสียก่อน ถึงจะมีการประกาศได้ ขอให้มีการรับรองอย่างชัดเจนเสียก่อน เพื่อที่จะได้ประกาศออกไปโดยที่ไม่มีผลกระทบต่อผู้ทำธุรกิจค้าขาย

“วันนี้ได้เข้ามาคุยในเรื่องของสินค้า ว่าโครงสร้างของสินค้าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องไปดูจากสถิติที่ผ่านมาว่าสินค้าตัวไหนมีราคาขึ้นสูง และเป็นสินค้าที่ประชาชนใช้ในชีวิตประจำวัน ถึงอย่างไรเราก็ต้องวิเคราะห์โครงสร้างด้วย ส่วนเรื่องการลดราคาน้ำมันก็จะส่งผลในการลดราคาค่าขนส่งสินค้าได้ด้วย”น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุจะเดินหน้านโยบายถมทะเลสร้างเมืองใหม่จะมีการดำเนินการอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะแจ้งให้ทราบภายหลัง ซึ่งตนกำลังทำงานอยู่ทั้งหมด อีกทั้งเรื่องนี้ยังเป็นโครงการใหญ่ ต้องหารือกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาทำงานร่วมกันด้วย

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศผลรับรองสถานะภาพการเป็น ส.ส.ในวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่า กกต. กำลังประชุมอยู่ คงต้องให้เวลากกต. เชื่อว่าทุกอย่างคงเป็นไปตามกติกา

ท้องถิ่นจี้รัฐบาลใหม่ทบทวนรับจำนำข้าว

นายมานะ วุฒยากร นายกอบต.วังกรด อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เปิดเผยว่า นโยบายที่รัฐบาลใหม่กำลังขับเคลื่อนในเรื่องของโครงการรับจำนำข้าว โดยจะให้ข้าวเปลือกมีราคาถึงตันละ 15,000 บาท ซึ่งในเรื่องนี้อยากให้รัฐบาลนำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์คิดให้ดี ระหว่างการรับจำนำกับการประกันรายได้ เนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวนั้น จะทำให้คนหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มโรงสีและกลุ่มลานตากข้าว พร้อมกลุ่มพ่อค้าคนกลางร่ำรวย ตลอดระยะเวลารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชวาชีวะ ได้ทำโครงการประกันรายได้ทำให้โรงสีหรือกลุ่มพ่อค้ากนกลางไม่สามารเอารัดเอาเปรียบชาวนาได้ ทำให้โรงสีหรือพ่อค้าคนกลาง แทบล้มละลายไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งปิดกิจการไปก็มี

แต่พอนโยบายพรรคเพื่อไทยเข้ามา ในเรื่องของโครงการรับจำนำข้าว ทำให้โรงสีพ่อค้าคนกลางดีใจกันทั่วหน้าเพราะว่าการรับจำนำข้าวสามารถซิกแซกเอารัดเอาเปรียบชาวนา และภาครัฐได้ อีกทั้งชาวนาไม่มีอำนาจต่อรองกับโรงสีในการขายข้าวเปลือกทำให้โรงสีรวมตัวกัดกดราคาไม่เป็นไปตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ประกาศไว้ นอกจากนี้  โรงสีจะอ้างว่า ไม่มีที่เก็บข้าวจึงซื้อข้าวในราคาต่ำ ทำให้เกษตรกรชาวนาจำเป็นต้องขายเพราะเกี่ยวข้าวมาแล้วไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน

นายมานะ กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงสีและพ่อค้าคนกลางพิจิตร หลายแห่งกำเร่งหาซื้อข้าวในราคาถูกตันละ 7,000-8,000 บาท ไว้กักตุนเพื่อรอสวมสิทธิ์ชาวนาเพื่อเตรียมเข้าโครงการรับจำนำข้าว หากมีการเปิดรับจำนำ ซึ่งเรื่องนี้อยากให้รัฐบาลตั้งวอร์4รูมฟังความคิดเห็นเกษตรกรชาวนา อีกทั้งอยากให้ว่าที่รัฐบาลใหม่ทบทวน ในเรื่องนี้โครงการรับจำนำข้าวกับการประกันรายได้ให้มาก ตนในฐานะลูกชาวนาไม่อยากเห็นชาวนาถูกเอารัดเอาเปรียบโครงการรับจำนำข้าว อีกทั้งรัฐบาลใหม่จะต้องมีการเข้มงวดกับโรงสีพ่อค้าคนกลางอย่าให้มีการสวมสิทธิ์ชาวนา

นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายกอบจ.พิจิตร กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลใหม่นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องดีหากมีการควบคุมได้โดยไม่ให้มีการทุจริต จากโรงสีพ่อค้าคนกลาง แต่หากภาครัฐหรือรัฐบาลควบคุมไม่ได้ อีกทั้งภาครัฐเข้าไปมีเอี่ยว จะทำให้ภาครัฐได้รับความเสียหายและสูญเสียเงิน เป็นจำนวนมาก ดังนั้นอยากฝากให้รัฐบาลหรือกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรกรฯดูแลในเรื่องนี้

"อดีตที่ผ่านมาโดยเฉพาะจังหวัดพิจิตรนั้นโครงการรับจำนำข้าวนั้นค่อนข้างมีปัญหามาก ในเรื่องของสต๊อกลม ข้าวปลอมปน ไม่ได้คุณภาพ อยากให้มีการเข้มงวดและห่วงว่าจะควบคุมไม่ได้ในเรื่องของการทุจริต เนื่องจากขณะนี้ มีโรงสีหลายแห่งในจ.พิจิตรเริ่มซื้อข้าวไว้กักตุนเพื่อรอโครงการรับจำนำข้าวกันแล้ว ผมไม่อยากเห็นการเอารัดเอาเปรียบชาวนา อยากให้ชาวนาได้ราคาเต็มตามโครงการรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ที่รัฐบาลประกาศไว้"นายชาติชาย กล่าว

ที่มา คมชัดลึก