นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทำให้ขณะนี้มีข้าวเปลือกเข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาล 2554/55 เพียงเล็กน้อย ซึ่งตัวเลขข้าวเปลือกที่เข้าโครงการตั้งแต่วันที่ 7-11 ต.ค. มีจำนวน 2.56 หมื่นตัน ใน 51 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคกลาง 21 จังหวัด แบ่งเป็นข้าวเปลือกเจ้า 2.53 หมื่นตัน และข้าวเปลือกปทุมธานี 250 ตัน ส่วนหนึ่งยอมรับว่าเกิดปัญหาน้ำท่วมทำให้นาข้าวเสียหายจำนวนมาก

ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายแล้วเกือบ 9 ล้านไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ปลูกข้าวในภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่างกว่า 6 ล้านไร่ คิดเป็นปริมาณข้าวเปลือก 3-4 ล้านตัน หากน้ำท่วมนานกว่านี้คาดผลผลิตข้าวเปลือกจะเสียหาย 6-7 ล้านตัน หรือ 4-5 ล้านตันข้าวสาร ดังนั้นคาดว่า ราคาข้าวไทยในเร็วๆนี้จะปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับราคารับจำนำของรัฐบาลที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท หรืออาจจะสูงกว่าเล็กน้อย ในส่วนที่นาข้าวเสียหายทั้งหมด รัฐบาลจะมีมาตรการชดเชยตามที่กำหนดไว้ ซึ่งจะหาข้อสรุปอีกครั้ง เพราะต้องรอให้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงก่อน แต่จะเตรียมมาตรการรองรับไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ทันเยียวยาผลกระทบให้กับเกษตรกร

ผลกระทบนาข้าวเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม อาจทำให้ราคาข้าวสารปรับตัวสูงขึ้นจนกระทบกับผู้บริโภค ดังนั้นรัฐบาลจะเร่งทยอยจัดทำข้าวถุงธงฟ้าออกมาจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20% ซึ่งนองจากนาข้าวเสียหายแล้ว ในส่วนสินค้าเกษตรรายการอื่น เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดว่าราคาสูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามคาดว่าผลผลิตจะไม่เพียงพอสำหรับบริโภคในประเทศ ซึ่งในแต่ละปีไทยผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ประมาณ 4 ล้านตัน แบ่งเป็นบริโภคในประเทศ 3.7-3.8 ล้านตัน ที่เหลือส่งออก เช่นเดียวกับมันสำปะหลัง ที่คาดผลผลิตในประเทศจะลดลงจากปัญหาน้ำท่วม และราคาจะสูขึ้นได้อีกจากปัจจุบันที่กก. 3 บาทกว่า

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังแห่งชาติ เพื่อพิจารณาสถานการณ์มันสำปะหลัง และความจำเป็นในการพยุงราคาหัวมันสด ตามที่เกษตรกรร้องขอ หลังหลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมและราคารับซื้อหัวมันตกต่ำ

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ที่มีนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ได้สรุปสถานการณ์รับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาล 2554/55 ที่เปิดโครงการเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีปริมาณข้าวเปลือกข้าวโครงการเล็กน้อย เนื่องจากผลผลิตข้าวเปลือกส่วนใหญ่ยังไม่ออกมาและบางส่วนได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำมากำหนดหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้ข้าวเสียหายจำนวนมาก และเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อนุมัติต่อไป

ที่มา มติชน