ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานการประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล ครั้งที่ 1/2554 ซึ่งมีนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธานว่า ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติแนวทางการระบายข้าวเปลือกและข้าวสารจากการรับจำนำข้าวเปลือกยุ้งฉาง และโครงการจำนำข้าวสารรัฐบาลตั้งแต่ปี 2547/2548 ถึงปี 2552/2553 มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 50,000 ตัน โดยที่ประชุมมีมติเปิดให้ผู้สนใจ เข้าร่วมเสนอราคาซื้อข้าวเปลือกและข้าวสารด้วยวิธีการยื่นซองเสนอราคา ต่อคณะทำงานระบายข้าวสาร ซึ่งมีนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นประธาน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเสนอราคาซื้อข้าว

"การระบายข้าวสารครั้งนี้เป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ประกอบกับข้าวลอตนี้มีปริมาณเพียง 50,000 ตัน จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาตลาด แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวนาปรังปี 2554 กำลังจะออกสู่ตลาดราวเดือนมีนาคมนี้ก็ตาม เพราะมีปริมาณน้อยมากหากเทียบกับข้าวที่ผลิตได้ทั้งปี 20-30 ล้านตัน" นายมนัสกล่าว

ด้านการระบายข้าวสารในคลังสินค้าขององค์การคลังสินค้า (อคส.) กับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ปริมาณ 100,000 กระสอบที่ถูกน้ำท่วมนั้น กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและสรุปตัวเลขความเสียหายขั้นสุดท้าย และจะมีการกำหนดแนวทางระบายในครั้งต่อไป

ส่วนการระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ขณะนี้มีการเสนอซื้อจากรัฐบาลอินโดนีเซียและบังกลาเทศแล้ว แต่ยัง ไม่ได้ข้อสรุป" นายมนัสกล่าว

ล่าสุดมีรายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เข้ามาว่า กรมการค้าต่างประเทศกำลังอยู่ระหว่างการทำบันทึกความตกลงขายข้าวนึ่งปริมาณ 300,000 ตัน ให้กับรัฐบาลบังกลาเทศ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ แต่ปัญหาก็คือรัฐบาลไม่มีข้าวนึ่งอยู่ในสต๊อกเพื่อส่งมอบ ดังนั้นวิธีที่เป็นไปได้ก็คือ การเปิดให้ผู้ส่งออกยื่นเสนอราคาเพื่อปรับปรุงข้าวนึ่ง หรือนำข้าวนึ่งจากภาคเอกชนส่งมอบแทน เพราะข้าวในสต๊อกของรัฐบาลมีเพียงข้าวขาว 5% ไม่สามารถส่งออกได้ตามเงื่อนไขของรัฐบาลบังกลาเทศ

ด้านนางปราณี ศิริพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในปี 2554 รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนที่จะอนุญาตให้มีการนำเข้าข้าวชนิดพิเศษ (special rice) จำนวน 200,000 ตัน ได้แก่ ข้าวหอมมะลิของไทย, ข้าวบาสมาติของอินเดีย, ข้าวสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน (Diabetic Rice) และข้าวเหนียวดำ รวมทั้งจะอนุญาตให้มีการนำเข้าแป้งข้าวเจ้าอีก 30,000 ตัน

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ