www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

หวั่นรับจำนำดันข้าวไทยพุ่ง


นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่พรรคเพื่อไทย แกนนำตั้งรัฐบาล มีนโยบายจะรับจำนำข้าวเปลือกในราคาสูง (ข้าวเปลือกเจ้าทั่วไปตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 20,000 บาท)ส่งผลให้คู่ค้าต่างประเทศ ได้วิ่งซื้อข้าวจากผู้ส่งออกและโรงสีไทย เพราะเชื่อว่าราคาข้าวไทยจะขยับสูงขึ้น โดยราคาข้าวขาว 5% ในตลาดโลก ก่อนการเลือกตั้ง (3 ก.ค.54) เฉลี่ยที่ 420-430 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ล่าสุดราคาขยับมาอยู่ที่ 540 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และในเดือนพฤศจิกายนศกนี้มีแนวโน้มจะขยับขึ้นไปถึง 800 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกข้าวของไทย
 
อย่างไรก็ดี มีปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยอาจไม่ดีดังคาด เมื่อล่าสุด (12 ก.ค.54) ทราบข่าวว่า ประเทศอินเดียจะกลับมาส่งออกข้าวอีกครั้ง จำนวน 1 ล้านตัน  และขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจี จำนวน 800,000 ตันในปีนี้ คาดว่าจะส่งผลทำให้ในช่วง 1-2 สัปดาห์จากนี้ไปคู่ค้าต่างประเทศจะชะลอซื้อ และจะส่งผลทำให้ราคาข้าวไทยมีแนวโน้มลดลง แต่คงไม่มากนัก ทั้งนี้ จากการส่งออกข้าวของประเทศอินเดีย จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของทั้งไทยและเวียดนาม เพราะจะมีตัวแชร์ตลาดเพิ่มขึ้น
 
รายงานจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย  เปิดเผยถึงการส่งออกข้าวของไทยตั้งแต่ 1 ม.ค.-7 ก.ค.2554 ว่า มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 6,543,309 ตัน แยกเป็นการส่งออกในเดือนมกราคม ปริมาณ 920,790 ตัน  กุมภาพันธ์ 970,508 ตัน มีนาคม 1,123,374 ตัน เมษายน 947,427 ตัน พฤษภาคม  1,194,970 ตัน  มิถุนายน 1,168,681 ตัน  และช่วงวันที่ 1-7 กรกฎาคมอีก 217,619 ตัน ทั้งนี้คาดการณ์ว่าการส่งออกข้าวของไทยในปี 2554 จะส่งออกได้ 9.5-10 ล้านตัน
 
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. มีประสบการณ์ พร้อมที่จะทำงานให้กับทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็นโครงการประกันรายได้เกษตรกร หรือโครงการรับจำนำข้าว  ซึ่งในเบื้องต้นจะขอความชัดเจนจากรัฐบาลใหม่ว่าจะใช้ฐานข้อมูลจากการขึ้นทะเบียนเกษตรกรจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรหรือไม่ จะรับจำนำข้าวทุกเม็ดหรือจะจำกัดปริมาณ จึงจะสรุปตัวเลขได้ว่าจะต้องใช้เงินงบประมาณเท่าไรในการรับจำนำ
 
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรปี 2551/52 มีจำนวนเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวเปลือกนาปรัง จำนวน 1,314,689 คน  จำนวนเงินที่เกษตรกรได้รับรวม  161,051.12 ล้านบาท ประมาณการภาระขาดทุนรวม 53,997.93 ล้านบาท มีผลผลิตที่เข้าร่วมโครงการรวม 23.17 ล้านตัน ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรวม 17,097 ล้านบาท
 ส่
วนโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 2552/53 มีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ ข้าวเปลือกนาปี มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวเปลือกนาปรัง จำนวน 5,488,790 คน จำนวนเงินที่เกษตรกรได้รับรวม 62,223.45 ล้านบาท  ผลผลิตที่เข้าร่วมโครงการรวม 68.30 ล้านตัน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของธ.ก.ส.รวม 2,257 ล้านบาท 
 
ขณะที่นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า โครงการรับจำนำไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ เป็นโครงการเก่าทั้งผู้ส่งออกและโรงสี มีความพร้อมในระดับหนึ่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะในปีนี้สถานการณ์ข้าวไทยในตลาดโลกมีความต้องการสูง เพราะประเทศต่างๆ ประสบปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกน้ำท่วม หิมะตก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย ซึ่งการจำนำข้าวที่ประสบความสำเร็จก็คือจ้างโรงสี แปรสภาพจากข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร ซึ่งถ้าจะให้เกษตรกรมีอำนาจต่อรองที่สูงขึ้นไม่ควรจำกัดเขตโรงสีที่เข้าร่วมโครงการ เหมือนสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร แต่หากเปรียบเทียบระหว่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรแล้ว โครงการรับจำนำข้าวจะเสียเปรียบในด้านการแข่งขันกับผู้ส่งออกในตลาดโลก
 
ด้านนายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ประกาศความพร้อมที่จะสนองนโยบายโครงการรับจำนำข้าว เพราะปีที่ผ่านมา อคส.ได้ลงทุนด้านไอที ประมาณ 22 ล้านบาทเพื่อเชื่อมโยงกับคลังสินค้ากว่า 800 คลัง 30 กว่าจังหวัด รวมทั้งโรงสีกว่า 1,100 แห่ง และปรับโครงสร้างในองค์กร มั่นใจว่าระบบใหม่จะป้องกันการสวมสิทธิ์ และป้องกันการทุจริตตั้งแต่นำข้าวเม็ดแรกมาเก็บในคลังสินค้าของอคส.
 
นายกมลวิศว์ แก้วแฝก กรรมการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรรักษาการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)  กล่าวว่า อ.ต.ก.พร้อมทั้งเรื่องบุคลากร และความเชี่ยวชาญ ขณะนี้รอรัฐบาลสั่งการลงมาอย่างเดียว
 
ส่วนนายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึง โครงการรับจำนำข้าว จะเป็นโครงการที่ทำลายตลาดทั้งระบบ คือ ตลาดข้าวทั้งในประเทศและตลาดข้าวโลก เพราะการจำนำข้าวนั้นจะไม่ได้คำนึงคุณภาพข้าวเป็นหลัก จึงทำให้เกษตรกรมีแรงจูงใจหันมาผลิตข้าวอายุสั้นกันมากขึ้น เพราะรัฐบาลไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพ  จะส่งผลทำให้ในอนาคตข้าวไทยสูญเสียตลาดข้าวคุณภาพดีให้กับเพื่อนบ้าน  ขณะเดียวกันข้าวคุณภาพต่ำจะขายไม่ออก สุดท้ายคนในประเทศก็ต้องรับประทานข้าวคุณภาพต่ำ
 
อนึ่ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯคนใหม่ เปิดเผยล่าสุดว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจะเริ่มได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูข้าวนาปี 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.