ุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถาบันอาหารได้ตั้งเป้าการส่งออกอาหารทุกประเภทของประเทศไทยในปีหน้า (2555) จะมีปริมาณรวมกันทั้งสิ้น 31.7 ล้านตัน ลดลงจากปีนี้ถึง 2.5% และจะมีมูลค่าส่งออกอยู่ที่ 971,000 ล้านบาท สาเหตุที่ปริมาณส่งออกอาหารลดลง เนื่องจากการส่งออกข้าวในปีหน้าจะเริ่มประสบปัญหาจากราคาข้าวของไทยในตลาดโลกจะสูงกว่าคู่แข่งอย่างอินเดียและเวียดนาม โดยเฉพาะข้าวขาว 5% ที่ของประเทศไทยมีราคาอยู่ 560 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ราคาสูงกว่าคู่แข่งถึง 100 เหรียญฯ ทำให้ลูกค้าหันไปสั่งซื้อสินค้าจากประเทศอื่นๆแทนประเทศไทย
ทั้งนี้ ในปีหน้าคาดว่าประเทศไทยจะส่งออกข้าวที่ระดับ 8.57 ล้านตันมูลค่ารวม 164,049 ล้านบาท ถือเป็นปริมาณการส่งออกที่จะลดลงเมื่อเทียบกับปีนี้ประมาณ 13.8% หรือคิดเป็นรายได้ของไทยที่จะลดลงจากการส่งออกข้าว 25,951 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีนี้ แต่ในส่วนของสินค้าอาหารประเภทอื่นๆยังจะสามารถขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าการส่งออกน้ำตาลจะมีมูลค่า 122,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7%, กุ้งแช่แข็งและแปรรูป 112,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4%, ทูน่ากระป๋องและแปรรูป 75,370 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3%, ไก่และสัตว์ปีก 76,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5% เป็นต้น
สำหรับปัจจัยที่จะทำให้มูลค่าส่งออกอาหารไทยเพิ่มขึ้นในปีหน้า หรืออาจสูงไปอยู่ในระดับ 1 ล้านล้านบาทได้คงจะมาจากกรณีที่ประเทศคู่แข่งไม่มีการดั๊มพ์ราคาสินค้าให้ต่ำลงมากเกินไป ส่วนปัจจัยลบที่จะส่งผลกระทบต่อการค้าอาหาร ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะวิกฤติหนี้ยุโรป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโร ผู้ส่งออกจึงต้องปรับตัวรับความผันผวน รวมทั้งอาจต้องระวังเรื่องการชำระค่าสินค้าล่าช้า หรือผิดชำระหนี้ที่อาจเกิดขึ้นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใน 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) ประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารได้ประมาณ 812,553 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2553 ประมาณ 22.3% โดยสินค้าที่ส่งออกได้เพิ่มมากขึ้นมีอาทิ น้ำตาลทราย กุ้งแช่แข็งและแปรรูป ทูน่ากระป๋องและแปรรูป เป็นต้น
นายโชคชัย เศรษฐีวรรณ อุปนายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ระหว่างเดือน ต.ค.-พ.ย. ที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกข้าวได้ชะลอตัวลง เนื่องจากอินเดียเปิดการส่งออกข้าวเป็นครั้งแรก หลังจากที่ต้องหยุดการส่งออกไปนานถึง 2 ปีเพราะมีสต๊อกข้าวในปริมาณที่สูง และที่สำคัญราคาข้าวของอินเดียจะต่ำกว่าไทย 100 เหรียญฯ ทำให้ลูกค้าไทยหันไปสั่งข้าวจากอินเดียแทน โดยเฉพาะปากีสถานที่ในแต่ละปีได้นำเข้าจากไทยจำนวนมหาศาลกลับต้องไปสั่งจากอินเดียเช่นกัน
ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
|