เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับ 6 สมาคมในวงการค้าข้าวไทย จัดเสวนาหัวข้อ “นโยบายข้าวว่าที่รัฐบาลใหม่ "ประกัน-จำนำ” ใครได้-ใครเสีย" โดยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ มานำเสนอการเดินหน้านโยบายประกันราคาข้าว ซึ่งจะมีการเพิ่มกำไรให้เกษตรกรอีก 10% ต้องใช้งบประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข จากพรรคเพื่อไทย เตรียมนำนโยบายรับจำนำกลับมาใช้คู่กับบัตรเครดิตชาวนา คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1 แสนล้านบาท

ส่วนความเห็นของภาคเอกชนนั้น นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้ง จำกัด กล่าวว่า นักการเมืองยังตอบคำถามไม่ชัดเจน หากตั้งราคารับจำนำข้าวไว้สูง จนทำให้ราคาส่งออกข้าวไปที่กว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จนผู้ส่งออกส่งข้าวไม่ได้ ทางรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะมีมาตรการในการดูแลผู้ส่งออกอย่างไร และจะแก้ปัญหาการคอรัปชั่นได้อย่างไร รวมทั้งการใช้เงินในโครงการรับจำนำถึง 1.2 แสนล้านบาท เหตุใดรัฐบาลจึงไม่มีมาตรการที่ทำให้ชาวนาแข็งแรงยืนบนขาของตัวเองได้ แทนที่จะมาอุ้มเกษตรกรตลอดเวลา และใช้เกษตรกรเป็นเครื่องมือในการหาเสียง

นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า หากใช้นโยบายรับจำนำ 1.5 หมื่นบาท ก็คาดว่าจะทำให้ราคาข้าวถุงเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 8 บาท จากปัจจุบันที่ราคากิโลกรัมละ 15 บาท จะทำให้ข้าวสารถุงขนาด 5 กิโลกรัม ราคาเพิ่มขึ้นอีกถุงละ 45 บาท ซึ่งประชาชนจะรับได้หรือไม่ ดังนั้น หากรัฐบาลใช้นโยบายราคาข้าวสูงก็น่าจะมีมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภคภายในประเทศด้วย

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ไม่ต้องการให้ราคาข้าวถูกบิดเบือนโดยการตั้งราคาสูงเกินควร ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อการส่งออกข้าวของไทย โดยมองว่าควรใช้วิธีการชดเชยราคา เพราะการรับจำนำจะเป็นการดึงราคาข้าวให้สูงขึ้นทั้งระบบ และทำให้ต้นทุนการส่งออกสูงขึ้นตามไปด้วย ส่วนการประกันราคาเป็นวิธีการที่รบกวนตลาดน้อยกว่า กลไกปกติยังคงทำงาน และราคาซื้อขายอิงตลาดโลก

ด้านนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า นโยบายของพรรคการเมืองยังเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น หรือแจกโปรโมชั่นเพื่อหวังคะแนนเสียงช่วงเลือกตั้ง ซึ่งชาวนาอยากเห็นนโยบายของพรรคการเมืองที่เน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรที่ยั่งยืน โดยช่วง 2 ปีแรก ควรแก้ปัญหาราคาผลผลิต จากนั้นจึงพัฒนาสวัสดิการให้แก่ครอบครัวชาวนาอยู่ดีกินดี

ที่มา คมชัดลึก