www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

เปิดนโยบายข้าวปชป.-เพื่อไทย 4 สมาคมถล่มรูรั่วระบบ 'จำนำ-ประกัน'


ก่อนการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2554 มีความเคลื่อนไหวของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าวกลุ่มหลัก 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมชาวนาไทย และสมาคมผู้ประกอบการค้าข้าวถุงไทย ได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นต่อนโยบายการนำสินค้าเกษตร "เรื่องข้าว"มาหาเสียงกับเกษตรกรของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ คือ "พรรคประชาธิปัตย์" ชูนโยบายประกันรายได้เกษตรกร และราคาสินค้าหมวดอื่นอย่างข้าวโพด มันสำปะหลัง ส่วน "พรรคเพื่อไทย"ชูนโยบายรับจำนำข้าวและสินค้าเกษตรรายการอื่นด้วย

โดยเป็นตัวแปรสำคัญในการพลิกวิกฤตตลาดส่งออกข้าวมูลค่าปีละ 1.6 แสนล้านบาท ระหว่างประกันรายได้ กับรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาทนั้น จะส่งผลทั้งต่อพ่อค้าคนกลางหยุดรับออร์เดอร์นำเข้าลุกลามไปถึงการส่งออกครึ่งปีหลังจะมีปริมาณลดลง ผลสุดท้ายข้าวไทยทั้งระบบก็จะเกิดความระส่ำระสาย

เพื่อให้ทิศทางการวางยุทธศาสตร์ข้าวหลังการเลือกตั้งวันที่3 กรกฎาคม 2554 ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการของทุกฝ่าย ทั้ง 4 สมาคมได้มีมติแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางเพื่อเสนอยุทธศาสตร์การรักษาแชมป์การส่งออกข้าวของไทยให้รัฐบาลใหม่พิจารณา

ส.ผู้ส่งออกข้าวไทยหนุนนโยบายประกันรายได้

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ระหว่างรอผลการเลือกตั้ง ทางกลุ่มผู้ส่งออกได้ชะลอการรับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศในเดือนพฤษภาคมนี้ซึ่งอาจจะกระทบการส่งออกช่วงครึ่งปีอาจลดต่ำลงกว่า 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งไทยส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านตัน และอาจกระทบต่อภาพรวมทั้งปีที่ไทยตั้งเป้าจะเพิ่มยอดส่งออกให้ได้ถึง 9.5 ล้านตัน สูงกว่าปีที่ผ่านมาทำไว้ 9 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.68 แสนล้านบาท

จากเวทีการประชุมร่วมของทุกสมาคมต่างเห็นพ้องว่าจะเสนอรัฐบาลใหม่ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกข้าวแห่งอาเซียน โดยใช้ประโยชน์การตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) กำหนดให้ไทยและประเทศสมาชิกเดิม 5 ประเทศ ยกเว้นเวียดนาม กัมพูชา พม่า และลาว จะต้องลดภาษีนำเข้าข้าว 0% เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2553 หลังจากตลอด 1 ปีที่ผ่านมา "กรมการค้าต่างประเทศ" ออกประกาศอนุญาตให้นำเข้าเฉพาะ "ปลายข้าว" เพื่อมาใช้ในอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องเท่านั้น แทบจะไม่ได้ประโยชน์จากความตกลงอาฟต้าเนื่องจากไทยใช้นโยบายข้าวด้วยความหวาดกลัวทุกอย่าง

ต่างจากคู่แข่งอย่างเวียดนาม ซึ่งเปิดนำเข้าข้าวจากกัมพูชาไปแปรสภาพส่งออกถึงปีละ 3.5 ล้านตันข้าวเปลือกต่อปี จากปริมาณผลผลิตทั้งหมด 9 ล้านตันข้าวเปลือกต่อปี หากไทยยังทำเช่นนี้ต่อไป เวียดนามก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ หรือกรณีนำข้าวกลับเข้ามาผลิตบรรจุถุงขาย ก็ควรแบ่งกลุ่มตลาดข้าวเพื่อนบ้านให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกได้หลากหลาย

เมื่อเปรียบเทียบ 2 นโยบาย คือ "รับจำนำ"เหมือนยุคอดีตโดยตั้งราคาสูงจนบิดเบือนกลไกตลาด จนทำให้ไทยสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญ เช่น ถ้าให้ราคาข้าวขาว 5% ตันละ 15,000 บาท เท่ากับจะต้องขายในราคาสูงกว่า 850 เหรียญสหรัฐต่อตัน สูงกว่าคู่แข่ง 470-480 เหรียญสหรัฐต่อตัน ประการสำคัญไทยจะกลับสู่วงจรอุบาทว์ ทั้งทุจริตการรับจำนำ การระบายสต๊อก
รวมทั้งนโยบายข้าวไทยจะกลายเป็นการจูงใจให้เกิดการนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเสรีตามกรอบอาฟต้า มาสวมสิทธิจำนำ อ้างชื่อเกษตรกรกินส่วนต่าง

ส่วนนโยบาย "การประกันรายได้"ต่อไปอาจเป็นผลดีเพราะกลไกตลาดตัดสินราคาได้ว่าควรเป็นเท่าไหร่ เกษตรกรมีรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยรับการชดเชยจากรัฐบาล

ชาวนาชี้จัดระบบฟรีโซนเปิดนำเข้าข้าว

นายประสิทธิ์ บุญเฉยนายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่าเห็นด้วยกับวิธีนำเข้าข้าวเปลือกเข้ามา เพราะปัจจุบันถึงรัฐบาลจะไม่อนุญาตให้ทำ ในทางปฏิบัติก็มีการลักลอบนำเข้าอยู่แล้วแนวทางใหม่จึงควรจัดให้มีระบบฟรีโซนกำหนดพื้นที่เฉพาะ เพื่อนำเข้าข้าวเปลือกมาแปรสภาพแล้วส่งออก ห้ามขายในประเทศจนส่งผลกระทบต่อราคาข้าวภายในประเทศ รัฐบาลใหม่ควรมุ่งพัฒนาองค์ความรู้ที่ยั่งยืนให้เกษตรกรอยู่รอดได้

ส่วนที่ผ่านมาไม่ว่าจะจำนำหรือประกันรายได้ก็เป็นเพียงนโยบายหวือหวาที่ใช้หาเสียง เพราะชาวนาไม่ได้มีรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ดังนั้นรัฐบาลใหม่ควรให้ความรู้เกษตรกร ไม่ใช่นำแนวคิดที่จะให้ชาวนาแบมือขอจากรัฐอย่างเดียว โดยจะต้องหารือกันกับปลายทางต้องการข้าวชนิดไหนเพื่อให้ชาวนาปลูกข้าวอะไร นำพันธุ์มาปลูกพร้อมกับจัดโซนนิ่งพื้นที่ปลูกไปเลย ทำการพัฒนาผลผลิตต่อไร่ควบคู่กับการทำตลาด ขอให้โรงสี ผู้ผลิตปุ๋ย และให้ผู้ส่งออกช่วยอีกทาง

โรงสีแนะใช้อาฟต้า-ทำยุทธศาสตร์รัดกุม

นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย ย้ำว่า ทางสมาคมเห็นด้วย 2 ประเด็นคือ ประเด็นที่ 1 มาตรการนำเข้าข้าวจากเพื่อนบ้านในกลุ่มอาฟต้ามาผลิตที่ไทย เพราะโรงสีมีกำลังการผลิตได้ถึง 100 ล้านตันต่อปี แต่มีผลผลิตภายในประเทศเพียง 33 ล้านตันเท่านั้น เมื่อไทยเป็นประเทศเริ่มต้นที่ขอให้ประเทศอื่นลดภาษีไทยเองก็ควรจะทำได้แล้ว

ประเด็นที่ 2 การจำนำหรือประกันรายได้ ทางโรงสีในฐานะที่เป็นอุตสาหกรรมขั้นกลางมีกำไรไม่ต่างกัน เมื่อข้าวเปลือกทุกเม็ดในฤดูการผลิต 33 ล้านตัน ต้องผ่านโรงสี แต่ส่วนใหญ่กลับมองโรงสีได้ประโยชน์ และเสพติดโครงการจำนำ แต่ข้อเท็จจริงคือผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจสุจริตจะได้เฉพาะค่าแรงสีตันละ 500 บาท มีเพียงโรงสีบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้ประโยชน์จากการซื้อข้าวจากรัฐบาลเก็บไว้

ดังนั้นการใช้นโยบายอะไร รัฐบาลใหม่ต้องกำหนดยุทธศาสตร์ให้รัดกุม ถ้าจะกลับไปใช้นโยบาย "รับจำนำ" ต้องเข้าไปแก้ไขข้อบกพร่องในแต่ละขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การออกใบประทวนที่ชาวนามาออกกับโรงสีแล้วไปรับเงิน ขั้นที่ 2 การขายข้าวต้องหาวิธีปิดจุดอ่อนหรือแก้ไขให้ตรงจุด ระหว่าง3 ส่วน ส่วนที่ 1 จะทำทันที หรือส่วนที่ 2 ส่งต่อไปเก็บไว้ในคลังสินค้า และส่วนที่ 3 รอระบายต่อในขั้นตอนสุดท้าย

ถ้าจะ "ประกันรายได้" ก็เป็นนโยบายที่ดี แต่ควรกำหนดราคาขั้นต่ำเพื่อป้องกันข้าวในตลาดราคาไหลต่ำลงจนเกษตรกรขาดทุน เพราะชาวนาจะเทขายข้าวเปลือกพร้อมกัน ขณะที่รัฐบาลไม่ได้ดูดปริมาณข้าวส่วนเกินไปเก็บไว้ เมื่อขายพร้อมกันราคาตลาดก็ตกต่ำ ในทางตรงกันข้าม รัฐจะยิ่งเสียงบประมาณจ่ายชดเชยต่อตันสูงขึ้นโดยชาวนาเองก็ไม่ได้ประโยชน์ เนื่องจากต้องเอาเงินดังกล่าวไปจ่ายค่าเช่าที่ดินให้นายทุนเจ้าของที่ดินซึ่งปรับขึ้นค่าเช่าจาก 800 บาทเป็นไร่ละ 1,500 บาท หากชาวนาไม่จ่าย เจ้าของที่ดินจะไปขึ้นทะเบียนขอชดเชยเอง

วงจรทางด้านนโยบายของพรรคการเมืองในการดูแลราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะพืชหลักคือข้าวซึ่งไทยส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลกมาตลอดนั้น ทั้ง 4 สมาคมได้สะท้อนให้เห็นถึงวิธี "ผ่าทางตัน" ที่มีแต่รูรั่วทั้ง 2 ระบบ

เพราะทั้ง "จำนำ" และ "รับประกันรายได้" ต่างก็มีช่องว่างที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกรและข้าวไทยที่อาจจะสูญเสียความเป็นผู้นำตลาดได้ หากรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศยังไม่เร่งแก้ปัญหาให้ถูกทาง

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.