นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1 ร่วมกับนายอีกอร์ มานีลอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซีย ว่า รัสเซียได้แจ้งว่ากระทรวงการคลังของรัสเซียได้รับอนุมัติงบประมาณสำหรับชำระหนี้ข้าวไทยเป็นเงินสดจำนวน 36.44 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว และพร้อมชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
 
“เป็นความสำเร็จของกระทรวงพาณิชย์ หลังจากใช้ความพยายามในการติดตามหนี้ค่าข้าวก่อนนี้มากว่า 20 ปี และต้องขอขอบคุณรัสเซียที่แสดงความจริงใจในการชำระหนี้ค่าข้าวก้อนนี้ แม้จะเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นในสมัยที่รัสเซียยังเป็นสหภาพโซเวียตอยู่ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นเรื่องของระดับเจ้าหน้าที่ที่จะไปหารือกันในรายละเอียดการรับชำระคืนหนี้ โดยคาดว่าภายใน 1-2 เดือนนี้น่าจะได้ข้อยุติ” นางพรทิวากล่าว
 
หนี้ข้าวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2533 โดยรัสเซียขอซื้อข้าวจากไทยจำนวน 2 แสนตัน เป็นเงินเชื่อชำระภายใน 2 ปี หรือเดือน มี.ค.2536 ดอกเบี้ย 4% ต่อปี มูลค่าประมาณ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้ส่งมอบข้าวให้ตั้งแต่เดือน ม.ค.2534
 
แต่ปรากฏว่าผ่อนชำระได้เพียง 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สหภาพโซเวียตก็ล่มสลาย แต่รัสเซียก็พยายามชำระหนี้ให้โดยทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ในปี 2537 และผ่อนชำระถึงเดือน ก.ค.2537 รวมเป็นเงิน 39.53 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงหยุดชำระหนี้ ไทยจึงได้เจรจาปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้ง ในปี 2546 โดยรัสเซียจะจ่ายเงินต้น 36.44 ล้านเหรียญสหรัฐ และดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ล่าสุดเมื่อปลายปี 2553 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติแนวทางรับชำระหนี้ข้าวรัสเซียเป็นเงินสด โดยไม่คิดดอกเบี้ย ตามแนวทางที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ.

ที่มา ไทยโพสต์