นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การที่พื้นที่ปลูกข้าวเสียหายจากอุทกภัยประมาณ 9 ล้านไร่ ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยขาดแคลนผลผลิตข้าว เนื่องจากขณะนี้ไทยยังมีสต็อกข้าวอยู่ในมือค่อนข้างสูง โดยอยู่ในมือรัฐบาลราว 2 ล้านตันและในมือเอกชน อีกประมาณ 4-5 ล้านตัน ขณะที่คนไทยบริโภคข้าวเฉลี่ยปีละประมาณ 10 ล้านตัน ซึ่งข้าวที่มีอยู่ตอนนี้ ก็คิดเป็นปริมาณครึ่งหนึ่งแล้ว และในช่วงเดือนหน้า ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งไม่มีปัญหาอุทกภัยหนัก ก็จะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้จะมีข้าวอีกหลายล้านตันเข้าสู่ตลาดในเดือนหน้า และหากชาวนาภาคกลางเริ่มปลูกข้าวได้อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ช่วงเดือนพฤษภาคมก็จะมีข้าวใหม่ออกสู่ตลาดอีกจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามในระยะสั้นผลผลิตข้าวอาจขาดแคลนจากปัญหาการขนส่งหรือโลจิสติกส์ แต่ก็ไม่ได้น่าเป็นห่วง สิ่งที่น่ากังวลคือการบิดเบือนราคาจากภาครัฐ ที่จะทำให้ข้าวไทยขายยาก เพราะช่องว่างราคาข้าวไทยห่างจากประเทศคู่แข่งมาก ซึ่งอาจทำให้การส่งออกข้าวไทยหยุดชะงัก

โดยหากรัฐบาลต้องการผลักดันให้คุณภาพชีวิตชาวนาสูงขึ้น ก็ควรสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิต แทนที่จะบิดเบือนกลไกตลาด เพราะการที่ต้นทุนทำนาสูงจะส่งผลกระทบถึงคุณภาพข้าวของไทยในอนาคต และหากชาวนาไม่พึ่งเครื่องจักรและสารเคมีมากเกินไป ก็จะได้กำไรเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก ปัจจุบันราคาส่งออกข้าวขาว ราคา ณ ท่าเรือเฉลี่ยตันละ 600 เหรียญสหรัฐ ผลจากการรับจำนำทำให้ราคาจะสูงขึ้นเฉลี่ยตันละ 800 เหรียญสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกับปริมาณส่งออกข้าวในปีหน้า โดยในปีนี้คาดว่า การส่งออกข้าวจะยังสามารถเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 10-11 ล้านตัน

ที่มา ครอบครัวข่าว 3