นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าว ว่า ได้มีการประเมินความเสียหายผลกระทบจากน้ำท่วมต่อการปลูกข้าว ซึ่งล่าสุดมีพื้นที่เพาะปลูกเสียหายกว่า 10 ล้านไร่ หรือคิดเป็นปริมาณ 8-9 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 5-6 ล้านตันข้าวสาร เนื่องจากน้ำท่วมได้ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง
ขณะที่คลังสินค้า และโรงสีที่ได้รับความเสียหายมีประมาณ 35 โรง อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง 8 จังหวัด และในจำนวนนี้เป็นโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำ 20 แห่ง ทำให้ผลผลิตข้าวนาปีของไทยปีนี้น่าจะลดลง และมีปัญหาผลผลิตข้าวขาดช่วง
ส่วนความคืบหน้าการรับจำนำ ปัจจุบันมีข้าวเข้าสู่โครงการรับจำนำแล้ว 1.15 แสนตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวเจ้า และมีโรงสีเปิดโครงการแล้ว 231 แห่ง อยู่ในภาคเหนือ 82 แห่ง กลาง 133 และอีสาน 16 แห่ง
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ยังได้เห็นชอบให้มีการสีแปรสภาพข้าวเปลือกรอบแรกในวันที่ 20 ต.ค.นี้ โดยใช้อัตราการสีแปรสภาพเดิมของปีที่แล้ว ขณะที่เกณฑ์ราคาค่าจ้างสีแปรใช้หลักเกณฑ์ราคาย้อนหลัง 10 วันของโรงสี และกรมการค้าภายใน ส่วนการส่งมอบข้าวเข้าโกดังกลาง โรงสีที่มีข้าวน้อยสามารถผ่อนผันขอยืดเวลาการส่งมอบข้าวได้
“แม้จะมีปัญหาน้ำท่วม แต่รัฐบาลยังยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการรับจำนำต่อไป เพราะบางพื้นที่ข้าวได้ออกสู่ตลาดแล้ว และไม่ได้มีปัญหาน้ำท่วม” นายยรรยง กล่าว
สำหรับผลจากการรับจำนำได้ส่งผลให้ราคาข้าวปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาข้าวขาว 100% ส่งออกอยู่ที่ 619 เหรียญสหรัฐต่อตัน ข้าวขาว 5% ราคา 607 เหรียญสหรัฐต่อตัน และการส่งออกตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 17 ต.ค.2554 มียอดส่งออกรวม 9.457 ล้านตัน มูลค่า 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา โพสต์ทูเดย์
|