www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ต่างชาติจี้โต้งแจงจำนำข้าวชี้ขัดกฎ'ดับเบิลยูทีโอ'บิดเบือนตลาดข้าวโลก


รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เร็ว ๆ นี้ คณะผู้แทนไทยด้านการประสานงานองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เตรียมขอหารือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เพื่อทราบความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของรัฐบาลไทย ที่จะนำไปใช้ชี้แจงต่อดับเบิลยูทีโอเดือน พ.ย. นี้ เพราะขณะนี้หลายประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐ อินเดีย ตั้งคำถามกับไทยถึงนโยบายการอุดหนุนสินค้าเกษตร โดยเฉพาะโครงการประกันรายได้และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก เป็นการบิดเบือนกลไกราคาตลาดข้าวในโลก และมีการอุดหนุนเกินขอบเขตที่องค์การการค้าโลกกำหนดไม่เกิน 1.9 หมื่นล้านบาทต่อปีหรือไม่
   
อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยได้เตรียมแนวทางชี้แจงไว้แล้ว โดยยืนยันว่าการดำเนินการของไทยไม่ได้ผิดหลักการ แต่เป็นเพียงแค่ถ้อยคำนโยบายที่ยังไม่ชัดเจน หากถ้าชี้แจงอย่างละเอียด จะไม่สร้างปัญหาต่อการค้าระหว่างประเทศ เพราะการดูแลราคาสินค้าเกษตรของไทยมีลักษณะคล้ายคลึงกับที่หลายประเทศที่เป็นสมาชิกดับเบิลยูทีโอดำเนินการอยู่เช่นกัน
   
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การอุดหนุนที่ดับเบิลยูทีโอกลัวคือการอุดหนุนที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้า และราคาขายสินค้าในประเทศนั้น ๆ ต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้ประเทศคู่แข่งได้รับความเสียหาย ขายสินค้าชนิดเดียวกันไม่ได้ หรือต้องตัดราคาขายจนขาดทุน ซึ่งแตกต่างจากกรณีรับจำนำข้าวของรัฐบาลไทย ถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร เพราะจะทำให้ราคาข้าวไทยสูงขึ้น และไม่มีใครเสียประโยชน์ เพราะคู่แข่งก็ขายข้าวได้สูงขึ้นตาม ส่วนงบประมาณที่รัฐบาลตั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียน 4 แสนล้านบาทนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเงินที่ใช้แล้วหมดไป แต่เมื่อใช้แล้ว ก็จะมีเงินก้อนใหม่กลับเข้ามา
   
“ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงมีการจับจ้องนโยบายรับจำนำครั้งนี้กันนัก เพราะไทยมี นโยบายรับจำนำมาโดยตลอด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายข้าวได้ในราคาสูงขึ้น ถือเป็นการยกระดับรายได้ และชีวิตความเป็นอยู่ อยากบอกให้คนที่ปล่อยข่าว หยุดพูดได้แล้ว อยากให้ทำเพื่อประเทศชาติบ้าง”
   
นายบูรณ์ อินธิรัตน์ ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงอาบูจา ประเทศไนจีเรีย กล่าวว่า ขณะนี้ภูมิภาคแอฟริกาใต้กำลังรณรงค์การผลิตอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศให้ได้ภายในปี 58 ดังนั้นภาครัฐจะต้องวางยุทธศาสตร์ลงทุนตลาดนี้ใหม่ โดยเฉพาะข้าวไม่เช่นนั้น อาจสูญเสียตลาดนี้ให้กับเวียดนาม และอินเดียได้ เนื่องจากเวียดนามได้เข้าไปปลูกข้าวมีพื้นที่กว่าหมื่นไร่ ในขณะที่อินเดียผูกขาดเป็นคนกลางค้าข้าวกับแอฟริกามาหลายสิบปีแล้ว
    
“การที่รัฐบาลประกาศเปิดโครงการรับจำนำข้าวในราคาสูง เพื่อต้องการให้เกษตรกรไทยมีรายได้ดีขึ้น จะส่งผลให้ราคาข้าวของไทยตั้งแต่เดือน ต.ค.ปรับสูงขึ้น เชื่อว่าผู้นำเข้าเริ่มหันไปมองตลาดเวียดนาม และอินเดีย ที่อนุญาตให้มีการส่งออกข้าวนอน-บาสมาติ ได้ในปีนี้ 1-1.2 ล้านตัน ขณะเดียวกันผู้บริโภคในแอฟริกาก็จะมีการปรับตัว และบางส่วนจะหันไปบริโภคแป้งประเภทอื่นบ้าง เช่น มันสำปะหลัง และมันมือเสือแทน”
   
นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ไม่มีแผนเลื่อนกำหนดเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 54/55 ที่จะมีขึ้น 7 ต.ค.นี้อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้รัฐบาลดำเนินการเตรียมความพร้อมไว้เกือบ 100% แล้วและวันที่ 21 ก.ย. จะเป็นประธานประชุมอนุกรรมการกำกับดูแลโครงการรับจำนำข้าวฯ โดยมีประเด็นหารือการตรวจสอบความพร้อมการเปิดโครงการ ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานแล้วว่ามีความพร้อมทุกด้าน รวมถึงการตรวจสอบสิทธิชาวนาที่จะเข้าร่วมโครงการ แต่ยอมรับว่าจำนวนชาวนาและโรงสีที่จะร่วมโครงการยังไม่ชัดเจน เพราะเป็นช่วงดำเนินการเปิดให้แจ้งความจำนงร่วมโครงการ
    
“ใครลือว่าจะเลื่อนโครงการรับจำนำเป็นไปไม่ได้ วันที่ 21 ก.ย. ผมจะประชุมอนุกรรมการกำกับฯ ก็จะมาดูกันว่าใครทำงานไปถึงไหนแล้ว ติดขัดอะไร จะได้ช่วยกันแก้ไข เพราะ 7 ต.ค.นี้เปิดรับจำนำข้าวแน่นอน”

ที่มา เดลินิวส์

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.