ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ ราคาข้าวเปลือกของไทยลดลงอย่างมาก โดยการสำรวจของกรมการค้าภายใน วันที่ 21 ก.พ. ราคาขายส่งข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูการผลิต 53/54 อยู่ที่ตันละ 12,650-14,000 บาท ลดลงจากต้นฤดูกาลในเดือน พ.ย.53 ที่ตันละ 13,400-15,500 บาท ข้าวเปลือกเจ้าปี 53/54 ตันละ 8,400-8,500 บาท ลดลงจาก 8,800-9,300 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานีตันละ 10,400-12,000 บาท ลดลงจากตันละ 12,000-14,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวตันละ 13,500-16,000 บาท ลดลงจากตันละ 14,000-16,350 บาท สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวในประเทศลดลง สาเหตุใหญ่มาจากข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่ระบายให้กับผู้ส่งออกตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมากว่า 4 ล้านตัน ขณะนี้ส่งออกจริงราว 500,000 ตัน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 3 ล้านตันยังวนเวียนขายในประเทศ เช่น ขายให้กับผู้ผลิตข้าวสารบรรจุถุง จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่กดดันให้ราคาในประเทศ ทั้งที่การส่งออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-16 ก.พ.54 มีมากถึง 1.5 ล้านตัน
นางสาวกอบสุข เอี่ยวสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ราคาข้าวส่งออกที่อ่อนตัวลงนั้น เพราะเวียดนามลดค่าเงินดองลง ทำให้ช่องว่างราคาข้าวไทย และเวียดนามสูงขึ้นถึงตันละ 60-80 เหรียญฯ โดยราคาข้าวสารขาว 5% ของไทยตันละ 520 เหรียญสหรัฐฯแต่เวียดนาม 460 เหรียญฯ ทำให้ผู้ซื้อไม่สนใจซื้อข้าวไทย ประกอบกับสต๊อกข้าวของรัฐบาลที่ระบายให้กับผู้ส่งออก จนถึงขณะนี้ก็ยังทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงกดราคาข้าวในตลาด
ด้านนายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล ประธานกลุ่มโรงสีจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เหตุที่ชาวนาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ประท้วง เพราะราคาข้าวในประเทศลดลงอย่างหนัก โดยเมื่อราคาในตลาดโลกลดลง ผู้ส่งออก และพ่อค้ามากดราคารับซื้อจากชาวนา ราคาข้าวเปลือกเจ้าเหลือตันละ 7,800-8,000 บาท จากก่อนหน้าอยู่ที่ตันละเกือบ 10,000 บาท ทั้งนี้ วงการค้าข้าววิจารณ์ว่า หากราคาข้าวตกลงจริง รัฐบาลก็จ่ายเงินส่วนต่างชดเชยให้อยู่แล้ว ชาวนาก็ไม่เดือดร้อนจากข้าวราคาถูก กรณีการประท้วงจึงน่าจะมีนักการเมืองท้องถิ่นอยู่เบื้องหลัง.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
|