สำนักงานอาหารแห่งชาติ (เอ็นเอฟเอ) ของฟิลิปปินส์ เปิดเผยวานนี้ (23 มี.ค.) ว่า ฟิลิปปินส์ บรรลุข้อตกลงเพื่อนำเข้าข้าว 200,000 ตัน จากเวียดนามในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด แต่ต่ำกว่างบประมาณที่รัฐบาลกำหนด

ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์ก็กำลังเจรจาเพื่อทำข้อตกลงแบบเดียวกันกับไทย จำนวน 1 ล้านตันต่อปี เป็นเวลา 3 ปี โดยการนำเข้าข้าวในปีนี้ของฟิลิปปินส์มีขึ้นก่อนฤดูกาลเก็บเกี่ยวจะเริ่มขึ้นในเดือน ก.ค.

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ได้ลดการนำเข้าข้าวไทย นับตั้งแต่ที่บรรลุข้อตกลงกับเวียดนามเมื่อปี 2551

"เรามั่นใจอย่างมาก ว่า เราได้ราคาที่ดีมากสำหรับการนำเข้าข้าวจำนวน 200,000 ตัน" นายแองเจลิโต บานาโย ผู้อำนวยการเอ็นเอฟเอ กล่าวและว่า ฟิลิปปินส์ได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ฟิลิปปินส์ตกลงซื้อข้าวเวียดนามที่ราคา 480 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งต่ำกว่างบประมาณที่ 550 ดอลลาร์ต่อตัน ตามราคาซีแอนด์เอฟ ซึ่งรัฐบาลกำหนดไว้ก่อนหน้านี้สำหรับปริมาณดังกล่าว แต่ราคาดังกล่าว ซึ่งเทียบเท่ากับ 440-450 ดอลลาร์ต่อตัน ตามราคาเอฟโอบี ยังสูงกว่าราคาปัจจุบันในเวียดนาม

ราคาขายข้าว 25% พุ่งขึ้นแตะ 410-415 ดอลลาร์ต่อตัน ตามราคาเอฟโอบี ที่ท่าเรือไซ่ง่อน ก่อนมีข่าวเรื่องการบรรลุข้อตกลงขายข้าวของรัฐบาล เทียบกับ 400-405 ดอลลาร์ต่อตัน ในสัปดาห์ที่แล้ว

เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า ราคาข้าวเวียดนามจะพุ่งขึ้นอีกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากฟิลิปปินส์ประกาศข้อตกลงดังกล่าว

สมาคมอาหารเวียดนาม ตัดสินใจขึ้นราคาส่งออกขั้นต่ำสำหรับข้าว 25% อีก 2.2% เป็น 470 ดอลลาร์ต่อตัน ตามราคาเอฟโอบี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ แต่เทรดเดอร์ ให้ความเห็นว่า รัฐบาลอาจจะไม่นำเข้ามากกว่าเพดานที่จำนวน 1.3 ล้านตัน ที่กำหนดไว้สำหรับปีนี้ โดยฟิลิปปินส์ตัดสินใจที่จะลดการนำเข้าลงเหลือ 860,000 ตันในปีนี้ หลังจากที่นำเข้าสูงเป็นประวัติการณ์ 2.45 ล้านตันในปีที่แล้ว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ