นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการปาฐกถาพิเศษเรื่อง "ทิศทางค้าข้าวไทยในตลาดโลก" ว่า ปี 2554 นี้กระทรวงพาณิชย์มองว่าเป็นปีทองของราคาข้าว เนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวภายในประเทศได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 8,200-8,300 บาทต่อตัน อีกทั้งเชื่อว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นไปจนถึง 8,900-9,000 บาทต่อตัน หลังจากที่พบว่าความต้องการข้าวในตลาดโลกยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในช่วง 3 เดือนแรก (มกราคม-มีนาคม 2554) ไทยส่งออกข้าวได้ถึงเดือนละกว่า 1 ล้านตัน โดยมียอดส่งออกรวม 3.05 ล้านตัน และราคาข้าวก็ไม่ได้ตกลงมาตามที่หลายฝ่ายวิตกกังวล
อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์คาดว่าตลอดทั้งปี 2554 การส่งออกข้าวไทยจะสูงกว่าเป้าหมาย 9.5 ล้านตัน ส่วนแนวโน้มราคาข้าวไทยคาดว่าจะขยับขึ้นไปแตะที่ตันละ 600 เหรียญสหรัฐฯ โดยขณะนี้อยู่ที่ตันละ 560 เหรียญสหรัฐฯ อีกทั้งมั่นใจว่าข้าวฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะทยอยออกสู่ตลาดจะมีราคาที่ดี รวมไปถึงกระทรวงพาณิชย์เองยังสนับสนุนให้มีการซื้อขายข้าวขาว 5% ส่งมอบแบบเอฟโอบีผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเพื่อเสริมตลาดข้าวไทย เบื้องต้นคาดว่าจะมีการซื้อขายวันละ 200 สัญญา เฉลี่ยสัญญาละ50 ตัน
นายยรรยง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำยุทธศาสตร์การค้าข้าวไทย เน้นส่งเสริมการส่งออกเชิงมูลค่ามากกว่าปริมาณ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลินั้นจะมีการจัดทำมาตรฐานส่งออกให้หลากหลายมากขึ้น เป็น 2-3 มาตรฐาน จากเดิมมีมาตรฐานเดียวคือหอมมะลิ 92% เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวหอมมะลิ ซึ่งอาจจัดทำมาตรฐานข้าวหอมมะลิ 95% และ 100% เพิ่มเติม
สำหรับมาตรการช่วยเหลือเพื่อลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาวิธีลดต้นทุนการเพาะปลูก โดยเฉพาะเรื่องปุ๋ยราคาแพง จากการหารือเบื้องต้นรัฐบาลจะจัดทำโครงการประกันต้นทุนปุ๋ย ขณะนี้กำลังจัดทำรายละเอียด
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นรัฐบาลอาจจะจ่ายชดเชยส่วนต่างราคาปุ๋ยให้แก่เกษตรกรทั้งระบบ แต่อาจจะต้องมีการกำหนดเงื่อนไขว่าให้มีการใช้ปุ๋ยตามความจำเป็นที่แท้จริง คาดว่าจะต้องใช้วงเงินสูงกว่า 570 ล้านบาท โดยรัฐบาลตั้งเป้าที่จะเริ่มโครงการในฤดูการเพาะปลูกใหม่นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้ปุ๋ยถึง 1.7 แสนตัน ในช่วงเดือนพฤษภาคม หากรัฐบาลดำเนินโครงการนี้ กระทรวงพาณิชย์อาจไม่จำเป็นต้องทำโครงการปุ๋ยธงฟ้าแล้ว
ที่มา แนวหน้า
|