นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ราคาข้าวเปลือกในตลาดขณะนี้ยังต่ำกว่าราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาล 2554/55 โดยราคาข้าวเปลือกเจ้าในตลาดปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 1.13 หมื่นบาท ต่ำกว่าราคาจำนำที่กำหนดตันละ 1.5 หมื่นบาท และราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในตลาดตันละ 1.44-1.62 หมื่นบาท ต่ำกว่าราคารับจำนำตันละ 2 หมื่นบาท เป็นเพราะการเปิดจุดรับจำนำข้าวของโรงสีบางพื้นที่มีไม่เพียงพอ ทำให้เกษตรกรต้องนำข้าวไปขายในตลาดปกติ เปิดโอกาสให้โรงสีกดราคารับซื้อข้าวได้ ซึ่งได้ขอให้ทางคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจังหวัดเข้าไปช่วยดูแล พร้อมกับจะเร่งให้มีการเปิดจุดรับจำนำเพิ่มเติมเร็วที่สุด แต่หากโรงสีในพื้นที่ยังเข้าร่วมโครงการรับจำนำน้อย จะให้โรงสีจากภาคอื่นข้ามเขตเข้ามาเปิดจุดรับจำนำแทน

ทั้งนี้ มีโรงสีที่เข้าร่วมเปิดจุดรับจำนำข้าวตั้งแต่เปิดโครงการวันที่ 7 ต.ค.-21 พ.ย. ทั้งหมด 553 แห่ง จากที่ยื่นความจำนงค์เข้าร่วมโครงการรับจำนำ 700-800 แห่ง โดยได้มีการอนุมัติให้โรงสีข้ามเขตรับจำนำแล้ว 45 แห่ง เป็นโรงสีภาคกลางไปเปิดจุดยังพื้นที่รับจำนำข้าวภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งปริมาณจุดรับจำนำยังไม่เพียงพอต่อผลผลิตข้าวที่คาดว่าจะเข้าโครงการรับจำนำในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. ประมาณ 10 ล้านตันข้าวเปลือก โดยล่าสุดมีข้าวเปลือกที่เข้าโครงการรับจำนำแล้วทั้งสิ้น 1.26 ล้านตัน ซึ่งจังหวัดที่เกษตรกรนำข้าวเปลือกมาเข้าโครงการจำนำจำนวนมากกว่า 1 แสนตัน เช่น นครสวรรค์ กำแพงเพชร เป็นต้น

สำหรับราคาส่งออกข้าวไทย ถือว่ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดข้าวขาว 5% ราคาส่งออกเอฟโอบีปรับขึ้นไปอยู่ที่ 610 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐ/ตัน และข้าวหอมมะลิปรับขึ้นไปอยู่ที่ 1,200 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากสัปดาห์ก่อน 1,100 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็นระดับราคาที่น่าพอใจ และเชื่อว่าการส่งออกข้าวไทยปีนี้จะทะลุตามเป้าหมายที่ 10 ล้านตัน เพราะขณะนี้ไทยสามารถส่งออกข้าวได้แล้ว 9.99 ล้านตัน มูลค่า 5,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเป็นเงิน 1.8 แสนล้านบาท ส่วนการส่งออกในปีนี้ คงไม่กำหนดเป้าหมายการส่งออกเป็นปริมาณ เพราะยุทธศาสตร์ตลาดข้าวไทยจะเน้นเรื่องราคาเป็นหลัก

นายยรรยง กล่าวว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลกำหนดวงเงินรับจำนำข้าวลดลง จะไม่กระทบต่อการเปิดรับจำนำข้าวทุกเม็ดของรัฐบาล แต่ที่ต้องตั้งวงเงินน้อยลงนั้น เป็นเพราะการคาดการณ์ผลผลิตข้าวปีนี้ที่เสียหายจากน้ำท่วมมากถึง 9-10 ล้านไร่ หรือเสียหาย 7-8 ล้านตันข้าวเปลือก ทำให้งบประมาณที่จะใช้จ่ายในโครงการรับจำนำปรับลดจาก 4.1 แสนล้านบาท เหลือ 3.59 แสนล้านบาท โดยเป็นเงินทุนหมุนเวียน 2.69 แสนล้านบาท

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ