นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าหากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าที่ตันละ 15,000 บาท ฤดูการผลิตนาปีที่จะถึงนี้มีโอกาสสูงที่จะขาดทุนมากถึงตันละ 5,000 บาท เพราะเวลานี้ข้าวเปลือกเจ้าในท้องตลาดตันละ 10,500 บาท โอกาสที่ราคาข้าวในท้องตลาดจะสูงขึ้นเป็นไปได้ยากเพราะอินเดียมีข้าวอยู่ในสต๊อกมากถึง 20 ล้านตัน ปกติอินเดียสต๊อกข้าว 10 ล้านตัน มีความเป็นไปได้ที่อินเดียจะระบายข้าว เมื่อราคารับจำนำข้าวไทยสูงตันละ 15,000 บาท ผู้ซื้อจะหันไปซื้อจากอินเดียและเวียดนาม
หากราคาข้าวในท้องตลาดไม่ขึ้นรัฐบาลก็ต้องรับจำนำทั้งหมด คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวนาปี 2554/55 จะออกมาช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ประมาณ 24 ล้านตัน ถ้าจะรับจำนำบางส่วนเพื่อดึงราคาข้าวขึ้นจากปัจจัยของอินเดียและเวียดนาม ถ้าราคาข้าวไม่ขึ้นรัฐบาลก็ต้องรับจำนำทั้งหมด 24 ล้านตัน ขาดทุนตันละ 5,000 บาท หรือขาดทุนรวมกว่า 100,000 ล้านบาท ถ้ารับจำนำบางส่วนชาวนาที่ไม่ได้รับตันละ 15,000 บาท อาจต้องเคลื่อนไหว
นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษาโครงการรับจำนำข้าวของพรรค กล่าวว่า ได้เสนอแนวทางการรับจำนำข้าวเพื่อลดการขาดทุนของรัฐบาลให้กับพรรค โดยมีรายละเอียดคือราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 100% ความชื้นไม่เกิน 15% กำหนดไว้ที่ตันละ 15,000 บาท หากชาวนาเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางจะได้รับเต็ม 15,000 บาท หากรับจำนำใบประทวนตันละ 14,700 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 5% รับจำนำยุ้งฉางตันละ 14,300 บาท จำนำใบประทวนตันละ 13,800 บาท หอมมะลิจำนำยุ้งฉางตันละ 20,000 บาท จำนำใบประทวนตันละ 19,000 บาท หอมจังหวัดจำนำยุ้งฉางตันละ 19,200 บาท จำนำใบประทวน 18,200 บาท ข้าวหอมปทุมธานีจำนำยุ้งฉางตันละ 15,500 บาท จำนำใบประทวนตันละ 15,000 บาท
เขากล่าวว่าผลผลิตข้าวเปลือกนาปีคาดว่าจะออกสู่ตลาดประมาณ 23 ล้านตัน เป็นข้าวเปลือกเหนียว 6.5 ล้านตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ 6.5 ล้านตัน ข้าวเปลือกเจ้าและปทุมธานีประมาณ 10 ล้านตัน โดยข้าวเหนียวส่วนใหญ่บริโภคในประเทศ หอมมะลิข้าวถุงแบรนด์ต่างๆ จะมีการเก็บสต๊อกไว้จำนวนหนึ่ง เพราะฉะนั้นปริมาณข้าวที่จะเข้าสู่โครงการรับจำนำจะเป็นข้าวหอมมะลิบางส่วน ข้าวเปลือกเจ้าและหอมปทุมธานีรวมกันประมาณ 8-9 ล้านตัน ใช้เม็ดเงินประมาณ 1.4 แสนล้านบาท
"เร็วๆ นี้จะมีการหารือกับผู้ประกอบการโรงสีข้าว เกี่ยวกับอัตราการส่งมอบต้นข้าวที่เหมาะสม เพราะปัจจุบันทั้งชาวนาและโรงสีมีการพัฒนาคุณภาพการปลูกและการสีข้าว เพราะฉะนั้นอัตราการส่งมอบต้นข้าวอาจต้องสูงกว่าที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีความพร้อมการดำเนินการรับจำนำทำได้ทันเดือนพฤศจิกายน ช่วงที่ผลผลิตข้าวนาปีออกสู่ตลาดอย่างแน่นอน"
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวแสดงความเป็นห่วงนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่าโครงการรับจำนำข้าวตันละ 15,000-20,000 บาท จะละเมิดข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศหรือไม่ และจะกระทบต่อขีดแข่งขันการส่งออกข้าวของไทยหรือไม่ และต้องการให้รัฐบาลมีความรอบคอบเพื่อประโยชน์ร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
|