นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงโครงการประกันรายได้เกษตรกร เฟส 2 ที่พรรคจะนำมาดำเนินการทันทีหากได้รับการเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง โดยจะเพิ่มกำไรให้ชาวนาอีก 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเพิ่มวงเงินประกันรายได้ด้วยการเพิ่มกำไรให้ชาวนาจากเดิม 40% เป็น 50% และส่วนที่สองมีแผนที่จะใช้เงินอีก 3,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มค่าขนส่งให้กับชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ไกลจากปัจจุบันให้ค่าขนส่งเหมาจ่ายตันละ 200 บาท จะปรับค่าขนส่งใหม่เป็น 3 ระดับตามระยะทาง คือ 1.ถ้าระยะทางจากพื้นที่เพาะปลูกถึงกรุงเทพฯไม่เกิน 300 กม.ให้ค่าขนส่งที่ 200 บาทต่อตัน 2.ระยะทาง 301-600 กม.ให้ค่าขนส่งเพิ่มเป็น 400 บาทต่อตัน 3.ระยะทาง 601 ก.ม.ขึ้นไป ให้ค่าขนส่ง 600 บาทต่อตัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการประกันรายได้เฟสแรก รัฐบาลมีการใช้เงินดำเนินโครงการฯไป 58,000 ล้านบาท โดยมีการทุจริตน้อยมากและเกษตรกรได้รับความเป็นธรรม 4 ล้านครัวเรือน ขณะที่การหาเสียงพรรคเพื่อไทยประกาศยกเลิกการประกันรายได้ กลับไปใช้โครงการรับจำนำข้าวที่ราคา 15,000-20,000 บาทต่อตันแทน เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยต้องประกาศให้ชัดเจนด้วยว่ารัฐบาลจะรับจำนำข้าวทั้งหมด ของเกษตรกรซึ่งในแต่ละปีมี 20 กว่าล้านตันหรือไม่ เพราะเท่าที่คำนวณดูแล้วการรับจำนำจะทำได้เพียง 8 ล้านตัน ใช้เงินถึง 120,000 ล้านบาท ดูแลชาวนาได้ 1 ล้านครัวเรือน

“หากคนเข้าใจภาษาไทยจะรู้ว่าไม่ใช่โครงการรับจำนำ แต่เป็นการรับซื้อ เพราะไม่มีใครที่ไหนจะสามารถรับจำนำข้าวได้ในราคาเกินกว่าราคาตลาดถึงเท่าตัว เสร็จแล้วก็ไม่มีใครมาไถ่ถอน”

นอกจากนั้น หากพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาลจะเร่งดูแลเรื่องสินค้าราคาแพง โดยต้องดูกระบวนการที่มีอำนาจเหนือตลาด เพราะขณะนี้ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในเรื่องของราคาสินค้า จึงต้องเร่งให้กระบวนการหรือกลไกตลาดถูกกำหนดด้วยกติกาที่ชัดเจน จากนั้นค่อยไปเรื่องการปรับค่าแรงขั้นต่ำให้กับลูกจ้าง

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์