เหลือเวลาอีกเดือนเศษ ก็จะผ่านครึ่งทางของปี 2554 แล้ว 5 เดือนแรกของปีนี้พบว่ามีความไม่ปกติต่อวงการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรหลายชนิด อันเนื่องมาจากภาวะอากาศแปรปรวน น้ำท่วม ภัยแล้ง ผลผลิตลดราคาสูง สำหรับ "ข้าว" ได้รับผลกระทบบ้าง แต่เนื่องจากอายุการเก็บเกี่ยวสั้นสามารถปลูกทดแทนได้ แต่ความไม่ปกติที่เกิดกับสินค้า "ข้าว" คือปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 30% แต่ราคาข้าวในประเทศกลับทรงตัว ทั้งที่ความเป็นจริงราคาควรจะขยับขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาประกันรายได้กับราคาตลาดถึงตันละเกือบ 3,000 บาท เกิดอะไรขึ้นกับวงการค้าข้าว "สมบัติ เฉลิมวุฒินันท์" ประธานบริษัท เอเซีย โกลเด้นไรซ์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ มีคำตอบ!
++สถานการณ์ข้าวครึ่งปีแรก:
"สมบัติ" กล่าวถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวครึ่งปีแรกว่า ภาพรวมโตไม่ต่ำกว่า 30% จากที่เคยส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 700,000 ตัน เป็นเดือนละ 1 ล้านตัน เพราะว่ามีคำสั่งซื้อจาก 3 ประเทศคืออินโดนีเซีย จีน และบังกลาเทศ เข้ามาค่อนข้างมาก อินโดนีเซียหยุดซื้อข้าวไป 2-3 ปี ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วถึงต้นปีนี้หันมาเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ ขณะที่จีนเป็นตลาดที่น่าจับตาเพราะสองปีนี้ผลผลิตจีนลดลงหันมานำเข้าข้าวจากไทยและเวียดนาม โดยเฉพาะข้าวขาวจากที่ผ่านมามีการนำเข้าข้าวแต่เป็นข้าวหอมมะลิ แต่ว่าระยะหลังจีนหันมานำเข้าข้าวขาว หากต่อไปมีการนำเข้ามากจะมีผลต่อทิศทางตลาดในทางที่ดี ส่วนบังกลาเทศ ไม่ถือว่าเป็นตลาดหลักของไทย แต่ปีนี้นำเข้าเพราะอินเดียไม่ส่งออกข้าวนึ่งจึงหันมานำเข้าข้าวนึ่งจากไทยจึงถือเป็นตลาดเสริมของไทยปีนี้
"ครึ่งแรกของปีนี้ถือว่า 3 ประเทศ เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ และมีส่วนช่วยให้ราคาข้าวในประเทศของไทยไม่ลง ถ้าไม่มี 3 ตลาดนี้ ราคาจะลงกว่าที่เป็นอยู่"
++ส่งออกเพิ่มแต่ราคาลง?:
ปริมาณการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นถึง 30% จนสร้างความปั่นป่วนให้กับผู้ส่งออกไปหมด ทั้งขาดแคลนกรรมกรขนข้าว ขาดเรือขนส่งข้าว เพราะว่าเดิมเคยส่งออกเดือนละ 700,000 ตัน แต่เพิ่มเป็น 1 ล้านตัน แต่กรรมกรมีเท่าเดิม เรือมีเท่าเดิม แถมฝนตกผิดฤดูอีก แต่ทำไมราคาข้าวจึงไม่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าวที่เกษตรกรขายได้ลดลง กระทั่งรัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาประกันรายได้กับราคาตลาด ถึงตันละเกือบ 3,000 บาท เขายอมรับว่าราคาข้าวไม่ขึ้นจริงแต่ก็ไม่ได้ลง และบางช่วงเวลาราคาข้าวส่งออกของไทยต่ำกว่าข้าวเวียดนามเสียอีก สาเหตุเป็นเพราะว่ารัฐบาลได้ระบายสต๊อกออกมามากเกินไป
ปริมาณสต๊อกข้าวที่รัฐบาลปล่อยออกมานั้นคิดว่าเบ็ดเสร็จแล้วเกือบ 4 ล้านตัน และเป็นการปล่อยออกมาช่วงเวลาสั้นๆ จนข้าวล้น ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาถ้ารัฐบาลไม่ปล่อยสต๊อกออกมามาก แถมมีคำสั่งซื้อจากอินโดนีเซีย บังกลาเทศ และจีนเข้ามา ราคาข้าวจะขึ้นไปเยอะมาก
++สถานการณ์ครึ่งปีหลัง:
สำหรับสถานการณ์ครึ่งปีหลัง ประธานบริษัท เอเซีย โกลเด้นไรซ์ฯ มองว่าราคาข้าวน่าจะยืนทรงตัวระดับสูงไม่ต่ำมาก หากรัฐบาลใหม่เข้ามาและบริหารเป็นจะง่ายเพราะสต๊อกรัฐบาลเหลือไม่มาก แต่ปัจจัยคือกลุ่มที่ซื้อข้าวสต๊อกรัฐบาลขายออกไปหมดหรือยัง คิดว่าน่าจะยังเหลืออยู่ประมาณ 1 ล้านตันเศษ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยประเทศอินเดีย เพราะเวลานี้สต๊อกข้าวอินเดียล้นจนไม่มีที่จะเก็บแล้ว ทั้งสมาคมผู้ส่งออกข้าว โรงสี ชาวนา ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลส่งออกข้าวที่ไม่ใช่ข้าวบัสมาติแล้ว
ประเทศผู้ผลิตอื่นมีบราซิล ที่เริ่มผลิตข้าวนึ่งแข่งและราคาถูกกว่า แต่ยังไม่น่ากังวลมากเพราะช่วงเวลาสั้นๆ นี้คงยังไม่มีออกมาแข่งขันข้าวนึ่งไทยในตลาดมากนัก
++เป้าหมาย "เอเชีย"ปีนี้:
ถ้าถามว่าปีนี้บริษัทจะโตเท่าไร ปีหน้าโตเท่าไร เป็นคำถามที่ค่อนข้างตอบยากสำหรับธุรกิจค้าข้าว ข้าวไม่ได้เหมือนธุรกิจอื่นที่จะโตได้ทุกปี การที่จะขายได้เท่าไรต้องดูว่าภาพรวมไปได้เท่าไร เช่นภาพรวมส่งออกได้ 9 ล้านตัน เรามีส่วนแบ่งเท่าไรเราต้องควบคุมส่วนแบ่ง ภาพรวมบางปีส่งออกมากบางปีน้อย
อย่างไรก็ดีภาพรวมสำหรับปีนี้มองว่าน่าจะทะลุ 10 ล้านตัน เพราะครึ่งปีแรกมั่นใจว่าทำได้ 6 ล้านตัน เฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านตัน ครึ่งปีหลังทำได้แค่เฉลี่ยปกติเดือนละ 700,000 ตันก็เท่ากับ 420,000 ตัน รวมกันเกิน 1 ล้านตันแล้ว หากครึ่งปีหลังทำได้มากกว่าเดือนละ 700,000 ตัน มีความเป็นไปได้ที่ปีนี้การส่งออกข้าวของไทยจะทำลายสถิติ และเป็นตัวเลขส่งออกที่เกิน 10 ล้านตันอย่างแท้จริง
++แผนขยายธุรกิจรองรับ:
นอกจากมองภาพรวมทิศทางตลาดและราคาข้าวแล้ว ประธานบริษัท เอเซียโกลเด้นไรซ์ จำกัด ได้กล่าวถึงการลงทุนของบริษัทว่าช่วงปี 2553-2554 ได้ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโรงสีข้าวนึ่ง ที่จังหวัดกาญจนบุรี กำลังผลิต 1,000 ตันต่อวัน เพิ่มไลน์โรงงานปรับปรุงข้าวที่จังหวัดฉะเชิงเทราอีกวันละ 2,000 ตัน โรงงานผลิตถุงพลาสติกวันละ 2.5 ล้านใบต่อเดือนป้อนให้กับโรงงานปรับปรุงข้าวในเครือและจำหน่ายให้กับผู้ซื้อภายนอก
"โรงสีข้าวนึ่งที่จังหวัดกาญจนบุรี คงต้องเลื่อนเปิดดำเนินการไตรมาสที่ 1 หรือ 2 ของปีหน้า เนื่องจากเจอพายุทั้งภายในประเทศและสึนามิ เนื่องจากสั่งนำเข้าเครื่องจักรจากญี่ปุ่น เมื่อเกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้นทำให้ทุกอย่างเลื่อนไปหมด"
"สมบัติ" กล่าวตอนท้ายว่าบริษัท เอเชีย โกลเด้นไรซ์ จำกัด มีแผนขยายลงทุนธุรกิจข้าวไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือกัมพูชา โดยร่วมกับนักลงทุนชาวกัมพูชา และญี่ปุ่น ความคืบหน้าได้ส่งทีมงานไปสำรวจพื้นที่และได้หารือกับผู้ร่วมลงทุนมาระดับหนึ่งแล้ว คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเข้าไปลงทุน แม้ว่าเวลานี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาจะไม่ราบรื่น แต่คงไม่ชะลอโครงการ คงจะเดินหน้าไปตามปกติ เพราะว่ากัมพูชาเป็นแหล่งวัตถุดิบข้าวที่สำคัญและเป็นประเทศที่มองว่าหากเข้าไปลงทุนแล้วมีอนาคต
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
|