ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานเข้ามาว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาวงการค้าข้าวตื่นตระหนกต่อกระแสข่าวความไม่ชัดเจนในนโยบายข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะการวางหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าวปีการผลิต 2554/255 และการระบายข้าวสารใน สต๊อกเก่าของรัฐบาลที่คาดว่ายังมีข้าวเหลืออยู่ในสต๊อกอีกราว 2.1 ล้านตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว

ทั้งนี้ มีกระแสข่าวเกิดขึ้นในวงการค้าข้าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะระบายข้าวในสต๊อกเก่าออกมาในไม่ช้านี้ โดยเชื่อว่าจะทยอยระบายสต๊อกเดือนละ 100,000-200,000 ตัน ด้วยวิธีเปิดประมูลเป็นการทั่วไป แต่ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจน ประกอบกับล่าสุดมีรายงานข่าวเข้ามาว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) เตรียมที่จะเซ็นสัญญาขายข้าวขาว 15% ให้กับรัฐบาลอินโดนีเซียประมาณ 300,000 ตัน ในราคาตันละ 515 เหรียญสหรัฐ และจะแบ่งข้าวจำนวนนี้ให้กับผู้ส่งออกข้าวบางรายได้รับสัญญาการปรับปรุงคุณภาพข้าวเพื่อการส่งออก แต่ทั้งหมดนี้จะต้องรอความชัดเจนในการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายข้าว (กขช.) ชุดใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างการแต่งตั้ง

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวเปิดเผยว่า จากการติดตามการประชุมของทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ความเห็นของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการค้าข้าว รวมทั้งการโฟนอินเข้ามาในที่ประชุมของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ทำให้เข้าใจว่า จะมีการระบายข้าวในสต๊อกออกมาเป็นระยะ ๆ แน่นอน ส่งผลจิตวิทยาต่อตลาดข้าวภายในประเทศ จากเดิมที่ทั้งผู้ส่งออกข้าวและโรงสีข้าวไล่ซื้อข้าวในตลาดเพื่อหวังราคารับจำนำข้าวราคาใหม่ที่สูงถึงตันละ 15,000 บาท สำหรับข้าวขาว และ 20,000 บาท สำหรับข้าวหอมมะลิ ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดปรับตัวสูงขึ้นมาตลอด

"แต่เมื่อมีข่าวออกมาว่า รัฐบาลกำลังเร่งระบายข้าวเก่าในสต๊อกออกมา ราคาข้าวไทยในช่วง 2-3 วันนี้จึงร่วงลงทันที เพราะผู้ซื้อต่างประเทศชะลอดูนโยบายการรับจำนำใหม่ ส่งผลให้ราคาข้าวขาว 100% วันที่ 24 สิงหาคมอยู่ที่ตันละ 580-590 เหรียญสหรัฐ ราคาข้าวขาว 25% ก็ลดลงที่ 535-545 เหรียญสหรัฐ ข้าวนึ่ง 100% ลดลงมาอยู่ที่ 605-615 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาเวียดนามกลับทรงตัวอยู่ที่ 565-575 ต่อตัน" แหล่งข่าวกล่าว

และเมื่อเทียบระหว่างราคาข้าวส่งออกกับราคาข้าวในประเทศของสมาคมโรงสีข้าวไทย ในระยะ 1 สัปดาห์ (18-24 สิงหาคม 2554) ก็ลดลงด้วย โดยราคาข้าวนึ่ง 100% ปรับลดลงจากตันละ 17,200-17,400 บาท เหลือ 17,000-17,300 บาท, ข้าวนึ่ง 5% ลดลงไปจาก 16,500-16,800 บาท เหลือ 16,000-16,300 บาท, ข้าวขาว 100% ลดลงจาก 16,500-17,000 บาท เหลือ 16,200-16,500 บาท และข้าวขาว 5% 16,000-16,300 บาท เหลือ 15,500-16,000 บาท

นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนกุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยและประธานกลุ่มโรงสีภาคกลาง กล่าวว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการระบาย แต่กลับมีการปล่อยข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ ส่งผลต่อราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับลดลงเฉลี่ยตันละ 700-800 บาท หรือหากคิดเป็นข้าวสารก็จะลดลงตันละ 1,000 บาท ซึ่งราคานี้เป็นราคาข้าวที่ลดลงในระยะเวลาเพียงแค่ 2 วัน ในช่วงก่อนและหลังแถลงนโยบายต่อสภา

"การระบายข้าวถือเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งของการจำนำ รัฐบาลยังไม่ควรแตะต้องข้าวในสต๊อก 2 ล้านตันในขณะนี้ แตˆควรเว้นระยะเวลา 2 เดือนนับจากนี้ หรือหากจำเป็นที่จะต้องระบาย ควรใช้วิธีการประมูลเบสิสผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย"

นอกจากนี้ สมาคมโรงสีข้าวไทยยังมีความเห็นว่า การตั้งราคาจำนำข้าวปทุมธานีตันละ 16,000 บาท กับราคาจำนำข้าวเปลือกเจ้าตันละ 15,000 บาท ต้องให้ราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้าสำหรับสีเป็นข้าวขาว 100% สูงกว่าข้าว 5% ตันละ 700-800 บาท และจะเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการชำระเงินเครดิตล่าช้าของผู้ส่งออก โดยรัฐบาลสนับสนุนให้กู้ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ส่งออกในอัตรา MOL -3% เพื่อให้ผู้ส่งออก นำมาชำระค่าข้าวให้โรงสีภายใน 1 สัปดาห์ จากเดิมจะให้เครดิตในเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเกินไป

ด้านนายวิชัย ศรีนวกุล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย ในฐานะประธานกลุ่มโรงสีข้าวหอมมะลิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า สมาคมโรงสีจะมีการประชุมใหญ่ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เพื่อรวบรวมความเห็นจากโรงสีทุกกลุ่ม ก่อนที่จะนำไปเสนอต่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในสัปดาห์หน้า

โดยในส่วนของกลุ่มโรงสีข้าวหอมมะลิซึ่งมีจำนวน 92 โรง ในพื้นที่ 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ 3 จังหวัดภาคเหนือ มีมติจะเสนอให้รัฐบาลเพิ่มราคาจำนำข้าวแบบยุ้งฉางอีกตันละ 1,000 บาท เป็น 21,000 บาท จากราคาจำนำข้าวหอมมะลิแบบใบประทวนที่ตันละ 20,000 บาท เพื่อสร้างแรงจูงใจการจำนำยุ้งฉางมากขึ้น โดยในปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวหอมมะลิออกสู่ตลาดราว 6 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งปริมาณใกล้เคียงกับผลผลิตข้าวเหนียว

"ส่วนข้าวเหนียว ทางกลุ่มโรงสีข้าวเหนียวขอให้ตั้งราคาจำนำไว้ที่ตันละ 18,000 บาท พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลเร่งสีแปรสภาพข้าวหอมมะลิภายใน 7 วันเพื่อป้องกันข้าวเสียสภาพ โดยโรงสียินดีจะปรับเพิ่มวงเงินประกันจาก 30% เป็น 50% ของข้าวที่รับจำนำด้วย" นายวิชัยกล่าว

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการหารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการดูแลบริหารจัดการแบบครบวงจร ทั้งการรับจำนำข้าว การจัดเก็บข้าวเปลือก การสีแปรสภาพเป็นข้าวสาร การระบายข้าวและการปิดบัญชีรับจำนำในแต่ละฤดูกาล ส่วนหนี้เดิมที่มีอยู่กับ ธ.ก.ส. รวมถึงสต๊อกข้าวเดิมที่มีอยู่ให้คณะกรรมการอีกชุดเข้ามาบริหารจัดการ

นอกจากนี้ ในส่วนการรับจำนำข้าวเปลือกยุ้งข้าวเกษตรกร ธ.ก.ส.เสนอให้ชุมชนและสถาบันของเกษตรกรเข้ามา บริหารจัดการข้าวเปลือก โดยรัฐบาลสนับสนุนการแปรรูป

รายงานข่าวจาก ธ.ก.ส.ว่า ได้มีการเสนอให้รับจำนำตามนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ รายละ 20 ตัน หรือคิดเป็นเงิน 300,000 บาท โดยรอบนี้ได้ประเมินวงเงินที่รับจำนำประมาณ 90,000 ล้านบาท โดยไม่ได้รับจำนำทั้งหมด

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ