นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการศึกษาข้อเท็จจริงและหารือการจัดทำระบบการตรวจสอบย้อนกลับของประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าข้าว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า ในการระบุแหล่งผลิตข้าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค และสร้างจุดแข็งในการพิจารณานำเข้าข้าวจากไทยของประเทศคู่ค้า จากที่ก่อนหน้านี้ไทยได้มีการกำกับดูแลคุณภาพและมาตรฐานสินค้าข้าว ตั้งแต่ระดับการเพาะปลูก การผลิต และการส่งออกแล้ว

“ช่วงที่ไปเจรจาขยายตลาดข้าวในญี่ปุ่น ทางญี่ปุ่นได้ขอให้ไทยเร่งพิจารณาจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับสำหรับสินค้าข้าว ซึ่งเป็นนโยบายในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับข้าวไทยอยู่แล้ว” นายมนัสกล่าว

ไทยยังขอให้ญี่ปุ่นพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการนำเข้าข้าวจากไทย ภายใต้ข้อผูกพันตามพันธกรณีองค์การการค้าโลก (WTO) ให้มากขึ้น ทั้งในระบบการประมูลนำเข้าเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม (General Import-GI) และระบบ Simultaneous Buy & Sale-SBS) ซึ่งเป็นการประมูลนำเข้าเพื่อการบริโภค (Table use) และขอให้นำเข้าข้าวอินทรีย์จากไทย เพื่อสนองตอบความต้องการบริโภคชาวญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัย

ปัจจุบันญี่ปุ่นเปิดตลาดนำเข้าภายใต้ WTO จำนวน 7.7 แสนตันต่อปี โดยในปี 2553/2554 ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวทั้ง 2 ระบบแล้ว 598,420 ตัน ในจำนวนนี้เป็นการนำเข้าจากไทย 255,700 ตัน คิดเป็น 42.73% ของการนำเข้ารวม

ขณะเดียวกัน ไทยได้ขอให้ญี่ปุ่นยกเลิกการห้ามนำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย ซึ่งถูกระงับตั้งแต่ปี 2547 โดยแจ้งให้ทราบว่าไทยปลอดเชื้อไข้หวัดนกแล้วตั้งแต่ปี 2551 และได้มีการส่งออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งไปยังประเทศต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.2553 ซึ่งญี่ปุ่นรับที่จะเร่งพิจารณาอนุมัติการนำเข้าสินค้าไก่สดแช่เย็นแช่แข็งจากไทย

นายมนัส กล่าวว่า ได้หารือกับสมาคมผู้ผลิตเหล้าอาวาโมริ (Awamori) ในจังหวัดโอกินาวา ซึ่งเป็นเหล้าที่มีชื่อเสียงและใช้ข้าวไทยเป็นวัตถุดิบในการผลิตเท่านั้น โดยนำเข้าประมาณ 2-2.5 หมื่นตันต่อปี ซึ่งกรมฯ เห็นว่าหากส่งเสริมให้มีการประชาสัมพันธ์ร่วมกันจะขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ