www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

เล็งยกชั้นตลาดกลางข้าวสาร


นายคมกฤชช์ ธรรมรัตนกุล ประธานหอการค้าจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การจัดตั้งตลาดกลางค้าข้าวสารขึ้นที่จังหวัดนครสวรรค์ นับได้ว่าเป็นตลาดกลางค้าข้าวสารแห่งแรกของประเทศไทย ตลาดกลางค้าข้าวสารแห่งนี้ นักธุรกิจในจังหวัดนครสวรรค์ได้ร่วมกันศึกษามาเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว โดยที่จะให้จังหวัดนครสวรรค์เป็นศูนย์กลางค้าข้าว กระทั่งมีความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดตลาดกลางค้าข้าวสารขึ้นในประเทศไทย จึงได้เปิดเป็นแห่งแรกโดยใช้ท่าข้าวกำนันทรง ที่อดีตเคยเป็นที่ตั้งตลาดกลางค้าข้าวเปลือก เพราะจุดที่ตั้งมีความสะดวกหลายด้านทั้งระบบโลจิสติกส์ที่จะขนส่งสินค้าจากท่าข้าวโดยทางรถไฟเพื่อเชื่อมขนส่งทางเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง
 
"เป้าหมายตั้งตลาดกลางค้าข้าวสารขึ้นมา เพราะต้องการให้เป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการโรงสีข้าวทั่วประเทศ เพราะปัจจุบันจากลักษณะการค้าข้าวโรงสีจะขายข้าวผ่านหยง โดยหยงจะรวบรวมส่งให้กับผู้ส่งออก ขณะที่จำนวนโรงสีทั่วประเทศมีเป็นจำนวนนับพันแห่ง แต่ผู้ส่งออกมีไม่กี่ราย โรงสีจึงมีอำนาจต่อรองน้อยมากในการขายข้าว จึงคิดว่าหากมีตลาดกลางค้าข้าวสารขึ้นมาจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ประกอบการโรงสี"
 
ทั้งนี้ตลาดกลางค้าข้าวสารระยะแรกจะเปิดซื้อขายเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผู้ขายได้แก่ผู้ประกอบการโรงสี สหกรณ์การเกษตรที่มีโรงสีข้าวเป็นของตัวเอง นำข้าวสารมาประมูลขาย ส่วนผู้ซื้อจะเปิดกว้างทั้งผู้ส่งออก เทรดเดอร์จากทั่วโลกที่มีความสนใจซื้อข้าว เบื้องต้นจะซื้อขายกันในรูปแบบผู้ขายนำตัวอย่างมาให้ผู้ซื้อดูก่อน แต่ต่อไปจะพัฒนาเป็นการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และราคาเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพข้าว และผู้ซื้อสามารถขนส่งข้าวสารโดยทางรถไฟเพื่อไปลงเรือที่ท่าเรือแหลมฉบังได้ทันที
 
นางลี่ ฮวาน เหลียน ประธานหอการค้าภัตตาคารจีน เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเข้าร่วมประมูลซื้อข้าวสารในวันเปิดตลาดกลางค้าข้าวสารเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2554 กล่าวว่าปกตินำเข้าข้าวจากประเทศไทยปีละ 400-500 ตัน โดยซื้อผ่านผู้นำเข้าข้าวของประเทศจีน เพราะไม่รู้จักผู้ส่งออกในประเทศไทย แต่หลังจากที่ประเทศไทยมีตลาดกลางค้าข้าวสารและให้ผู้สนใจซื้อจากทั่วโลกมีโอกาสเข้ามาประมูลซื้อ ณ ตลาดกลางค้าข้าวสาร คิดว่ามีความสะดวกและสามารถเลือกซื้อข้าวได้หลากหลายชนิด และตลาดกลางฯควรเปิดประมูลทุกสัปดาห์เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อรายกลางและเล็กที่ต้องการปริมาณข้าวไม่มาก และมีความมั่นใจว่าการมาประมูลซื้อที่ตลาดกลางฯจะได้ข้าวคุณภาพ เพราะที่ผ่านมามีความไม่มั่นใจปัญหาข้าวปลอมปน
 
นายเคน บี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียเกรน ซินดิเคต จำกัด ตัวแทนค้าข้าวในประเทศไทย กล่าวว่าได้มีโอกาสนำลูกค้าจากหลายประเทศทั่วโลกมาชมตลาดกลางค้าข้าวสารในประเทศไทย ลูกค้ามีความมั่นใจเพราะเห็นแหล่งที่มาของข้าว ซึ่งเชื่อว่าลูกค้าจะนำไปประชาสัมพันธ์ต่อภายในประเทศของตนและจะมีความมั่นใจคุณภาพข้าวไทยมากขึ้น
 
ด้านนางวาสนา อัศรานุรักษ์ ผู้จัดการตลาดกลางค้าข้าวสาร กล่าวว่าตลาดกลางค้าข้าวสารฯจะเป็นผลดีกับผู้ค้าข้าวสารในประเทศ ทั้งผู้ประกอบการโรงสีข้าว สหกรณ์การเกษตรต่างๆ ที่มีโรงสีเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ดีหากจะตั้งตลาดกลางค้าข้าวสารแห่งที่ 2 หรือแห่งที่ 3 ต้องอยู่ในทำเลที่เหมาะสมเช่นจังหวัดนครสวรรค์ตั้งได้เพราะเป็นศูนย์กลางปลูกข้าวและผู้ประกอบการโรงสีข้าว สำหรับตลาดกลางค้าข้าวเปลือกโอกาสจะเกิดขึ้นเป็นไปได้ยากเพราะนโยบายของรัฐบาลเปลี่ยนแปลงตลาดกลางค้าข้าวเปลือกจะไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

TREA on Facebook


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.