นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน กกร.ว่า ที่ประชุมมีมติควบคุมการขนย้ายข้าวเปลือก ปริมาณตั้งแต่ 5 ตัน ใน 24 จังหวัดที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านจะต้องแจ้งการขนย้ายมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ แต่ไม่กำหนดระยะเวลา โดยจะเป็นการห้ามขนย้าย ทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งผู้ที่ต้องการขนย้ายจะต้องได้รับการอนุญาตเท่านั้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเลขาฯ กกร. หรืออธิบดีกรมการค้าภายใน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น รวมทั้งเกษตรกรที่มีหนังสือรับรองผลการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปี 54/55 จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ไม่ต้องขอใบอนุญาตขนย้าย เพื่อเป็นการป้องกันการสวมสิทธิ์ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล และป้องกันการปลอมปนข้าว และเป็นการป้องกันความเสียหายของภาครัฐ รวมทั้งทำลายระบบการค้าข้าวในประเทศ

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องการให้เป็นมาตรการกีดกันทางการค้าข้าวของประเทศ ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการต้องการขนย้ายข้าวเปลือกนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมความพร้อม เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นเรื่องขนย้ายได้อย่างสะดวก หากพบการขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 1 แสนบาท และหากแจ้งปริมาณการขนย้ายไม่เป็นไปตามปริมาณจริง จะมีโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 6,000 บาท

นอกจากนี้ ในส่วนผู้ประกอบการโรงสี ผู้ประกอบการท่าข้าว และผู้ค้าข้าวทั่วประเทศ จะต้องมีการแจ้งการครอบครองข้าวเปลือกที่มีปริมาณตั้งแต่ 15 ตันขึ้นไป โดยให้มีการแจ้งการครอบครองเป็นประจำทุกเดือน หากพบว่าไม่มีการแจ้งปริมาณ จะมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับ 2 หมื่นบาทขึ้นไป และหากแจ้งปริมาณครอบครองเป็นเท็จ จะมีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับ 6 พันบาท ซึ่งหากประชาชนพบเบาะแส สามารถแจ้งความผิดปกติได้ และหากตรวจพบมีการกระทำผิดจริง ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รางวัลนำจับเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของค่าปรับ

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังมีมติมอบให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์และอธิบดีกรมการค้าภายใน กลับไปทบทวนมาตรการผ่อนคลาย หรือยกเลิกมาตรการควบคุมการขนย้าย-ส่งออกสุกร เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากลไกตลาดสามารถทำงานได้เต็มที่ และกลับเข้าสภาวะปกติจริง โดยให้ไปดูในแง่ปริมาณและราคา อย่างไรก็ตาม จะมีการพิจารณามาตรการดังกล่าว ในช่วงหลังเทศกาลกินเจ และในวันพรุ่งนี้นายกิตติรัตน์ได้เชิญสมาคมโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกกับทางภาครัฐมาประชุมชี้แจงความพร้อมและทำความเข้าใจก่อนที่จะเปิดรับจำนำจริงในวันที่ 7 ตุลาคมที่จะถึงนี้ต่อไป

ที่มา สำนักข่าวไทย