นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับสมาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการรับจำนำข้าว ว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อต้อง การเตรียมความพร้อมการรับจำนำข้าวตามนโยบายรัฐ บาล เพื่อเสนอนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐ มนตรีและรมว.พาณิชย์ พิจารณาจากนั้นคาดว่าจะเสนอให้คณะกรรม การนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาต่อไป ซึ่งภายในวันที่ 1 ก.ย.นี้ จะมีการประชุมหารือเรื่องดังกล่าวอีกครั้งเพื่อให้มีความเห็นชอบไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับการประชุมครั้งนี้มีความเห็นตรงกันเรื่องราคารับจำนำ คือ ข้าวหอมมะลิ รับจำนำราคา 20,000 บาท/ ตัน ข้าวหอมมะลิจังหวัดให้ลดหลั่นลงมาจากข้าวหอมมะลิทั่วไป 500-1,000 บาท/ตัน ข้าวหอมปทุมธานี ลดลงมา 1,000 บาท/ตัน ข้าวเหนียว 1,000-2,000 บาท/ตัน

ส่วนกรณีจะดำเนินการรับจำนำปริมาณเท่าไรนั้น ยังไม่มีข้อสรุปแต่เบื้องต้นคงดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการรับจำนำข้าวทุกเม็ด แต่ขึ้นอยู่กับเกษตรกรว่าจะจำนำเท่าไร เนื่องจากต้องการเปิดโอกาสให้กับเกษตรกรว่าจะจำนำหมดหรือไม่ อีกทั้งในส่วนของวิธีการรับจำนำ เบื้องต้นเสนอไว้ 2 วิธี คือรับจำนำใบประทวนและการรับจำนำแบบยุ้งฉาง

นายยรรยง กล่าวว่า ที่ประชุมยังเสนอที่จะดำเนินการรับจำนำข้าวได้ภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เนื่องจากเห็นว่าควรจะดำเนินการพร้อมการผลิตข้าวนาปีออก แต่ยังไม่ใช่ข้อสรุปที่ชัดเจน ส่วนตนเห็นว่าจะดำเนินการรับจำนำข้าวได้จริงและเร็วที่สุดคือกลางเดือนต.ค. แต่ขณะนี้เบื้องต้นคงยึดวันที่ 1 พ.ย. ไว้ก่อน

ส่วนงบประมาณในการดำเนินการจำนำในที่ประชุมยังไม่มีการพูดถึง ซึ่งคงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล คาดว่ารัฐบาลคงจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอต่อการบริหารจัดการ ทั้งนี้ เชื่อว่าการรับจำนำข้าวปีนี้ต่างจากปี 2551 อย่างแน่นอนเพราะรัฐบาลเน้นในส่วนของการยกระดับราคาข้าวของเกษตรกรเพื่อต้องการให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สำหรับกรณีที่ต่างประเทศกังวลว่าข้าวไทยราคาสูงขึ้น จะส่งผลให้ราคาข้าวโลกผันผวนนั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ประเทศไทยต้องการส่งเสริมข้าวไทยมีราคาดีขึ้น เนื่องจากต้องการให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น

ที่มา ข่าวสด