ุ
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้เพิ่มเงื่อนไขในการจัดหาเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 54/55 ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยกำหนดให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ซึ่งเป็นหน่วยงานจำหน่ายข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวฯ ให้ นำส่งเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายข้าวให้แก่ ธ.ก.ส.ทันทีหรือภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับเงิน หากล่าช้าให้ชำระเบี้ยปรับในอัตรา 15% ต่อปี ส่วนดอกผลที่เกิดจากการเก็บรักษาเงินค่าชำระสินค้านั้นให้ทั้ง อคส.และ อ.ต.ก. นำเงินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินทันที เพราะเป็นโครงการที่รัฐบาลรับภาระและเป็นรายได้ที่ อคส.และ อ.ต.ก.ไม่ควรจะได้ และ ธ.ก.ส.จะได้นำไปชำระหนี้และลดภาระหนี้เงินกู้ต่อไป
นอกจากนี้ยังกำหนดให้กรมการค้าต่างประเทศรายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินงาน ระบายข้าว ปริมาณและมูลค่าสินค้าคงเหลือ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นให้ ครม.รับทราบไม่น้อยกว่าปีละ 3 ครั้ง เพื่อให้ ครม.มีข้อมูลในการตัดสินใจได้ทันที ขณะเดียวกันยังกำหนดให้ อคส.และ อ.ต.ก. เร่งทำเอกสารและหลักฐานสำหรับเก็บข้อมูลปริมาณข้าวสารที่ได้จากการสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร คุณภาพ และปริมาณข้าวสาร ที่นำออกจากโกดังเป็นรายเดือนแล้วแจ้งให้ธ.ก.ส.ทราบปริมาณข้าวสารและจำนวนเงินที่ได้รับสำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 54/55 และเป็นหลักฐานในการตรวจสอบต่อไป
นายหาญส์ กล่าวด้วยว่า ครม.ยังเห็นชอบให้ อคส.และ อ.ต.ก. สำรวจปริมาณสินค้าในสตอกของรัฐบาลที่เหลืออยู่ จากโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตรเมื่อปีการผลิต 51/52 พร้อมประเมินมูลค่าของสินค้าที่เหลืออยู่และรายงานให้ครม.และกระทรวงการคลังทราบตามความเหมาะสม รวมทั้งกำหนดให้ชำระค่าสินค้าในสตอกของรัฐบาลเช่นเดียวกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 54/55
อย่างไรก็ตามในฐานะที่ ธ.ก.ส. เป็นผู้กู้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีการผลิต 54/55 จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เป็นวงเงินไม่เกิน 269,160 ล้านบาท นั้นได้กำหนดให้ ธ.ก.ส.แยกบัญชีการดำเนินงานและบัญชีธนาคารของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 54/55 โดยเฉพาะ เพื่อให้สำนักงบประมาณ จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีชำระคืน ธ.ก.ส. ให้เสร็จสิ้นทุกสิ้นปีงบประมาณหรือไม่เกินปีงบประมาณถัดไปตามผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงจากการจำหน่ายข้าว โดยไม่ต้องรอให้มีการระบายผลิตผลเสร็จสิ้นก่อน เพื่อให้ ธ.ก.ส.มีการรับรู้กำไรหรือขาดทุนจากการจำนำข้าวในปีนั้น ๆ การชดเชยต้นทุนเงินและค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน รวมทั้งเงินที่ใช้ในการดำเนินโครงการทั้งในส่วนของ ธ.ก.ส.และส่วนที่กู้จากสถาบันการเงิน เพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณ ด้านดอกเบี้ยจากหนี้คงค้างโครงการมาเป็นเวลานาน รวมทั้งยังทำให้ ธ.ก.ส.สามารถนำเงินไปหมุนเวียนเพื่อใช้ในโครงการอื่นในปีต่อไป หากมีกำไรเกิดขึ้นจากการดำเนินงานหลังจากการระบายผลผลิตหรือสิ้นสุดโครงการแล้วให้ ธ.ก.ส.นำเงินส่งคลังทันที
นายภักดีหาญส์ กล่าวอีกว่า ครม.ยังกำหนดให้ ธ.ก.ส.กู้เงินเพื่อบริหารจัดการหนี้เงินกู้ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยวิธีต่างๆ โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันสำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ
ทั้งนี้กระทรวงการคลังรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าที่ผ่านมาต้องปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะ ปีงบประมาณ 55 ใหม่ หลังจากที่ ธ.ก.ส.ได้ขอปรับเพิ่มวงเงินกู้เพราะต้องกู้เงินเพื่อใช้เป็นทุนเงินหมุนเวียนในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 54/55 ขณะเดียวกันยังพบว่าการดำเนินโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตรปีการผลิต 51/52 ที่ได้สิ้นสุดโครงการไปแล้ว พบว่าธ.ก.ส.ยังมีหนี้คงค้างล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 54 จำนวน 52,112 ล้านบาท
ที่มา สำนักข่าวไทย
|