ุ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปริมาณข้าวที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวนาปีของรัฐบาล มีเพียง 4.7 ล้านตันเท่านั้น ขณะที่ โครงการรับจำนำข้าว จะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ แล้ว ซึ่งในความเป็นจริงน่าจะมีการเก็บเกี่ยวข้าวไปประมาณกว่า 10 ล้านตัน

"ขณะนี้ ปริมาณข้าวที่เข้าในสต้อกรัฐบาลถือว่าน้อยกว่าปกติ และ ห่างจากการคาดการณ์มาก และเมื่อได้สอบถามไปทางโรงสีข้าว และผู้ส่งออก ก็ได้รับคำตอบว่า โรงสีไม่ได้มีข้าวเก็บไว้ในสต็อกมากนัก เพราะการรับจำนำครั้งนี้เงื่อนไข การรับจำนำค่อนข้างเข้มงวด ทำให้ จำนวนโรงสีข้าวเข้าร่วมโครงการไม่มากนัก ซึ่งเมื่อได้รับรายงานจากโรงสี ทำให้ กระทรวงพาณิชย์ สงสัยว่า ข้าวที่เก็บเกี่ยวออกมาแล้วไปอยู่ที่ไหน" นายยรรยง กล่าว

ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ กรมการค้าภายใน ในฐานะดูแล พระราชบัญญัติ(พรบ.) ค้าข้าว ออกคำสั่ง ให้ทางโรงสีข้าว ผู้ส่งออกข้าว ได้รายงานปริมาณ ครอบครองข้าวโดยเร็ว และนำข้อมูลมาประเมิน สำหรับข้อมูลในเบื้องที่รายงานปริมาณ ในกรณีความเสียหายเรื่อง ผลผลิตข้าวที่มาจากน้ำท่วมก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้มาจากการรายงานของ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และ กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ซึ่งข้อมูลที่ได้พบว่ายังมีความแตกต่างกัน ส่วนการประเมินผลผลิตข้าวของประเทศไทยโดยรวม จะใช้ฐานข้อมูลจาก กระทรวงเกษตรของสหรัฐ ที่ประเมินจากภาพถ่ายแผนที่ทางดาวเทียม ซึ่งอาจจะมีการคลาดเคลื่อนได้

อย่างไรก็ตามหากมีการประเมินข้อมูลแล้วพบว่า ผลผลิตข้าวออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ กระทรวงฯคาดการณ์ไว้ กระทรวงฯ จะต้องปรับ นโยบายการบริหารจัดการข้าวใหม่ รวมถึงการกำหนดนโยบาย และมาตรการข้าวใหม่ได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงมากขึ้น

"แม้ กระทรวงพาณิชย์ จะประเมินความเสียหายผลผลิตข้าวจาก ภาวะน้ำท่วมไว้จำนวนมาก แต่ ก็น่าจะมีข้าวเปลือกเข้ามาในโครงการรับจำนำมากกว่านี้ ซึ่ง ข้าวเปลือกที่เข้ามาน้อย ไม่แน่ใจว่าจะมีสาเหตุมาจากความล่าช้าในการออกใบประทวนให้กับเกษตรกรหรือไม่ ที่ผ่านมา ข้าวที่รับจำนำมา ส่วนใหญ่ จะมาจาก ภาคอีสานประมาณ 1.7 ล้านตัน, ภาคเหนือ 1.6 ล้านตัน, ที่เหลือมาจาก ภาคกลาง แต่หาก ชาวนาในพื้นที่น้ำท่วมจะเริ่มมีการปลูกข้าว ในช่วงที่น้ำลด ก็คาดว่า ข้าวจะเริ่มออกในปลายเดือนกุมภาพันธ์ - ต้นมีนาคม2555"

นายยรรยง กล่าวอีกว่า สำหรับราคาข้าวเปลือกเจ้า ในตลาดขณะนี้ ราคาเริ่มปรับสูงขึ้น ในขณะที่ราคาข้าวหอมมะลิลดลง โดยราคา เอฟโอบี อยู่ที่ตันละ 1,000 เหรียญสหรัฐ

ที่มา ไทยโพสต์