ุ
นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ระหว่างการพิจารณาการยื่นขอจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ข้าวของไทยในประเทศจีน ตามคำชวนของประเทศจีน และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เองก็ได้สนับสนุนการยื่นจดทะเบียนสินค้าประเภทข้าว อย่างไรก็ตาม กรมจะต้องศึกษาดูก่อนว่าตลาดการบริโภคข้าวไทยในประเทศจีนนั้น นิยมบริโภคข้าวชนิดใด แต่ในเบื้องต้นกรมมองว่าน่าจะยื่นขอจดทะเบียนจีไอข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เช่นเดียวกับที่ยื่นขอจดทะเบียนในสหภาพยุโรป (อียู)
ส่วนความคืบหน้าการยื่นจดทะเบียนจีไอข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ในอียูนั้น กรมอยู่ระหว่างแก้ไขคำขอในส่วนปลีกย่อย เช่น ชื่อของผู้ยื่นจดทะเบียนจีไอในประเทศไทยให้เป็นคนเดียวกันกับที่ยื่นในอียูที่ภาคเอกชนเป็นผู้ยื่น เพื่อให้สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตามขั้นตอนการขอจดทะเบียนจีไอในอียูได้ดำเนินการมาครบถ้วนแล้ว หากยื่นเข้าไปอีกครั้งก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนก็จะเสร็จสิ้นกระบวนการ
ในขณะเดียวกัน กรมได้ดำเนินโครงการตรวจสอบรับรองระบบการควบคุมตรวจสอบสินค้า เพื่อให้มาตรฐานของข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้เป็นไปตามมาตรฐานที่ได้ยื่นจดทะเบียนจีไอกับทางอียูไว้ กรมจึงร่วมมือกับทางสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ในการให้หนังสือรับรองจีไอข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่การผลิต 5 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม และยโสธร
“หากข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ได้รับการยอมรับให้จดทะเบียนจีไอในอียู และหากสามารถผลิตสินค้าได้ตามมาตรฐาน ก็จะสามารถติดตราสินค้าของประชาคมยุโรปในกล่องหรือผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิดังกล่าวได้ ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลให้มูลค่าข้าวจีไอปรับสูงขึ้นตามไปด้วย ส่วนการยื่นจดทะเบียนจีไอกาแฟดอยช้าง และกาแฟดอยตุง ในอียูนั้นก็มีความคืบหน้าเช่นเดียวกัน โดยอยู่ในขั้นตอนของการประกาศ และมองว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะก่อนหน้านี้ทางอียูรับจดทะเบียนจีไอกาแฟของโคลัมเบียมาแล้ว”นางปัจฉิมา กล่าว
สำหรับการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญาเอเปก ครั้งที่ 35 ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย นั้น ในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ประเทศไทยได้รายงานความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ ในเรื่องมาตรการป้องกันการลักลอบแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ และการพัฒนาระบบคุ้มครองงานลิขสิทธิ์บนอินเตอร์เนต โดยเรื่องการเอาผิดเจ้าของพื้นที่ที่สนับสนุนการละเมิดฯ กรมจะต้องจัดทำการศึกษาวิจัย และพิจารณาแนวทาง มาตรการดำเนินการจากประเทศต่างๆมาประกอบ เพื่อยกร่างกฎหมายต่อไป
ในขณะที่ประเทศจีนได้นำเสนอในเรื่องความร่วมมือกับกรมศุลกากรของจีน ขณะที่สหรัฐอเมริกาเสนอเรื่องการบังคับใช้กฎหมายป้องกันการลักลอบแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ กฎหมายเอาผิดเจ้าของพื้นที่ที่จำหน่ายสินค้าละเมิดฯ และมาตรการการปราบปรามการละเมิดฯบนเครือข่ายอินเตอร์เนต เป็นต้น 11%
ที่มา แนวหน้า
|