ุ
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือเรื่องที่จะจับมือกันระหว่างประเทศผู้ผลิตข้าวในอาเซียน 5 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย กัมพูชา เวียดนาม พม่า และลาว โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้ให้ความสนใจที่จะสานต่อความร่วมมือด้านข้าว เนื่องจากปีนี้ กัมพูชาเป็นประธานอาเซียน แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนว่า ความร่วมมือจะเป็นลักษณะใด แต่คาดว่าภายในปีนี้น่าจะเดินหน้าในการเริ่มความร่วมมือด้านข้าวในประเทศผู้ผลิตข้าว 5 ประเทศนี้ได้ เช่น ความร่วมมือด้านการพัฒนาการค้า การลงทุน โดยการเจรจาคงจะต้องตกลงกันในระดับสองประเทศก่อน ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีการจัดการประชุมระดับทวิภาคี ทั้งลาว เขมร พม่า เวียดนาม

ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนมองว่าความร่วมมือระหว่างประเทศผู้ผลิตข้าว 5 ประเทศเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยาก และในอดีตที่ผ่านมาทางการเมืองมักจะมีการพูดเสมอๆ แต่ไม่มีอะไรต่อเนื่อง โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการขายข้าว เนื่องจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมแต่ละประเทศผู้ ส่งออกข้าวในอาเซียนแตกต่างกันมาก เช่น เวียดนามมีข้อจำกัดตรงที่ไม่มีสถานที่ในการสต๊อกข้าวเพียงพอเหมือนกับไทย และอัตราดอกเบี้ยในประเทศสูงถึงกว่า 20% ทำให้เวียดนามไม่สามารถเก็บสต๊อกข้าวไว้แล้วรอขายทีหลัง เพราะต้นทุนสูง ทำให้ถึงเวลาเวียดนามก็ต้องขายข้าวออกมาในราคาต่ำ ในขณะที่ไทยมีสถานที่เก็บข้าวเพียงพอและรัฐบาลก็มีงบประมาณพอที่จะซื้อข้าวเข้ามาในสต๊อกรัฐบาล ด้วยต้นทุนการผลิตที่ไม่เท่ากันจึงทำให้ความร่วมมือเกิดขึ้นได้ยาก นอกจากนี้ไทยยังมีเรื่องความไม่แน่นอนของนโยบายทางการเมืองสูง เนื่องจากเมื่อมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีแต่ละครั้งนโยบายก็เปลี่ยนทำให้ประเทศอื่นๆ ที่จะมาร่วมมือไม่มั่นใจ

สำหรับสถานการณ์ส่งออกข้าวของไทยในเดือนเม.ย.นี้คาดว่าจะส่งออกได้ประมาณ 540,000-550,000 ตัน เนื่องจากการส่งออกข้าวนึ่งไปไนจีเรียยังมีจำนวนมากจากการที่อินเดียไม่สามารถส่งข้าวได้ทัน ทำให้ผู้นำเข้าในไนจีเรียหันมาสั่งซื้อข้าวจากไทยแทน ก่อนที่รัฐบาลไนจีเรียจะปรับเพิ่มภาษีนำเข้าข้าวนึ่งในเดือนมิ.ย. แต่เชื่อว่าในช่วงเดือนพ.ค.การส่งออกข้าวไทยจะกลับมาเงียบอีก เพราะการส่งออกข้าวนึ่งที่ลดลง จึงคาดว่าแนวโน้มการส่งออกข้าวในเดือนพ.ค.เป็นต้นไปน่าจะลดลงเฉลี่ยที่ 400,000-450,000 ตันต่อเดือน เนื่องจากเวียดนามและอินเดีย ยังส่งออกข้าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลผลิตข้าว ปีนี้ออกมาดีมาก

ส่วนราคาข้าวของไทยยังสูงกว่าเวียดนามประมาณตันละ 80-100 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้โอกาสการขายข้าวของไทยยังยากลำบาก เช่น ข้าวขาว 5% ของไทยราคาตันละ 540 เหรียญสหรัฐ, เวียดนาม 430 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือข้าวขาว 15% ของไทยราคาตันละ 520 เหรียญสหรัฐ, เวียดนาม 410 เหรียญ และอินเดีย 430 เหรียญสหรัฐ ดังนั้น โอกาสที่ไทยจะเสียแชมป์ผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งก็มีค่อนข้างมาก

ที่มา ข่าวสด