ุ
นายวิชัย ศรีนวกุล ประธานกลุ่มโรงสีข้าวหอมมะลิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยว่า จากการหารือกับสมาชิกโรงสีพบว่า มี 70-80% จาก 200 แห่ง ที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดทำมาตรฐานข้าวหอมมะลิแบบใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้แบ่งระดับมาตรฐานใหม่เป็น 3 ระดับ จากเดิมที่มีระดับความบริสุทธิ์เพียง 92% อย่างเดียว โดยเพิ่มระดับความบริสุทธิ์ 80-91% และความบริสุทธิ์ 92-94% เพราะการแบ่งมาตรฐานนี้อาจจะสร้างความสับสนให้กับผู้ซื้อ และไม่ได้ช่วยให้ราคาข้าวหอมมะลิปรับสูงขึ้นตามระดับมาตรฐานที่ได้แบ่ง แต่ในทางตรงกันข้ามอาจจะทำให้เป็นเหตุผลในการกดราคา

รับซื้อข้าวหอมมะลิได้

"กลุ่ม จะทำหนังสือร้องเรียนไปยังสมาคมโรงสีข้าวไทย เพื่อขอให้เป็นตัวกลางในการประสานขอให้ชะลอการประกาศใช้มาตรฐานข้าวชนิดใหม่ ออกไปก่อน จากเดิมที่เตรียมจะประกาศใช้ในเดือนมิถุนายน เพราะทางกระทรวงไม่ควรคิดเอง ควรเรียกหารือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งโรงสี ผู้ส่งออก ผู้ตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรอบคอบมากกว่านี้ เพราะผลเสียกระทบกับธุรกิจข้าวหอมมะลิของไทยโดยตรง ควรดูเรื่องคุณภาพแค่ความหอม เหนียว นุ่มจะดีกว่า" นายวิชัยกล่าว

ด้าน นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ อุปนายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและประธานบริษัท อุทัยโปรดิวส์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิ กล่าวว่า ผู้ส่งออกก็ไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้มาตรฐานข้าวหอมมะลิแบบใหม่ของกระทรวง พาณิชย์ ที่ผ่านมากระทรวงไม่ได้เชิญผู้ประกอบการไปหารืออย่างจริงจัง จากที่เคยประชุมกันไปเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน ซึ่งทางผู้ส่งออกได้คัดค้านเช่นเดียวกับโรงสี และบริษัทผู้ตรวจสอบ

คุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์)

"ระบบ มาตรฐานเดิมกำหนดความบริสุทธิ์ 92% แต่อนุญาตให้บวกลบได้อีก 4% หรืออาจจะมีความบริสุทธิ์ 88% หรือ 96% ก็ยังสามารถส่งออกได้ แต่การกำหนดมาตรฐานใหม่โดยให้ความแตกต่างกัน

เพียง 3% ในแต่ละระดับในทางตรวจสอบทำได้ยาก และทางบริษัทผู้ตรวจสอบเองก็ชี้แจงประเด็นนี้ไปแล้ว และที่สำคัญเราจะบอกลูกค้าอย่างไรว่า 3% ที่เพิ่มขึ้นนี้ต่างจากเดิมอย่างไร ไม่สามารถช่วยให้ราคาส่งออกสูงขึ้นได้แน่นอน"

นายเจริญกล่าวว่า ข้อเสนอแนะของเอกชนอยากให้กระทรวงพาณิชย์ชะลอการออกมาตรฐานเรื่องความ บริสุทธิ์ไว้ก่อน แล้วหันไปมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพของข้าวหอมมะลิแทน ว่าทำอย่างไรข้าวไทยจึงจะมีความหอมของข้าวหอมมะลิไทยที่น้อยลง แต่ราคาของข้าวไทยสูงขึ้น จนแพงกว่าคู่แข่งตันละ 400-500 เหรียญสหรัฐ โดยปัจจุบันข้าวหอมมะลิของไทยราคาส่งออกเอฟ.โอ.บี.อยู่ที่ตันละ 1,050-1,100

เหรียญสหรัฐ ขณะที่ที่ข้าวหอมมะลิเวียดนามอยู่ที่ 620 เหรียญสหรัฐ

ผล จากระดับราคาที่แตกต่างกันมาก แต่คุณภาพไม่ได้ดีขึ้น ทำให้ยอดส่งออกข้าวหอมมะลิของไทยลดลงเรื่อยมาจนส่วนแบ่งตลาดลดลงอย่างต่อ เนื่อง เช่น ตลาดฮ่องกง ส่วนแบ่งตลาดเหลือเพียง 40-50% จากเดิม 85-90% สิงคโปร์ก็ลดลงเหลือ 40-50% เช่นกัน เราควรทำอย่างไรที่จะแก้ไขปัญหาจุดนี้ ในขณะที่ข้าวหอมมะลิจากประเทศเพื่อนบ้านราคาถูก คุณภาพความหอมใกล้เคียงกัน เช่น เวียดนาม กัมพูชา และจีนก็ได้เริ่มพัฒนาข้าวหอมมะลิสายพันธุ์ใหม่ ๆ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทย โดยในปีนี้คาดว่าหากยอดส่งออกข้าวภาพรวมอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน ก็จะเป็นการส่งออกข้าวหอมมะลิเพียง 1.2-1.3 ล้านตัน เป็นการลดลงครั้งแรก จากเดิมที่เคยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3% หรือประมาณ 1.4-1.5 ล้านตัน

"หากมาทำมาตรฐานอีกคงไม่ใช่การสมควร ควรไปดูปัญหาด้านอื่นดีกว่า"

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์