ุ
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันการส่งออกข้าวในช่วง 7 เดือนหลังจากนี้ (มิ.ย.-ธ.ค.) 2555 ได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละเกือบ 1 ล้านตัน ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกของไทยสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 9.5 ล้านตัน โดยจากเดือนนี้เป็นต้นไป ตนจะนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เดินทางไปเจรจาขายข้าวระหว่างรัฐบาลกับ รัฐบาล (จีทูจี) อีก 3 ประเทศ คืออินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และบาห์เรน ซึ่งน่าจะมีปริมาณความต้องการสั่งซื้อรวมไม่ต่ำกว่า 1-2 ล้านตัน ด้านราคาในการขายจีทูจี ก็ยังคงยึดราคาจำนำเป็นเกณฑ์ ซึ่งหากเป็นข้าวขาว ที่รับจำนำตันละ 15,000 บาท ควรจะขายได้ในราคาที่ไม่ต่ำกว่า 600 เหรียญสหรัฐต่อตัน
"ปลายเดือนนี้จะไปที่อินโดนีเซีย ซึ่งมีความสนใจจะทำสัญญาซื้อขายข้าวขาวราว 1 ล้านตัน ส่วนฟิลิปปินส์ น่าจะมีการสั่งซื้อจริงราว 4-5 แสนตัน จากที่มีการทำบันทึกความเข้าใจไว้ก่อนหน้านี้ 1 ล้านตัน และจะไปบาห์เรน ตามนโยบายที่เคยวางไว้ว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางสำรองข้าวให้กับประเทศกลุ่มอ่าว อาหรับ ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถวางแผนการผลิต เก็บสต๊อกเพื่อส่งออกข้าวให้กับประเทศเหล่านี้ในระยะยาว และจะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรในการวางแผนการผลิต และส่งผลดีต่อราคา" นายบุญทรงกล่าว
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกข้าวล่าสุดในช่วง 5 เดือนแรก มีปริมาณ 3.1 ล้านตัน เป็นการส่งออกโดยภาคเอกชน 3 ล้านตัน และส่งออกโดยรัฐบาล 1 แสนตัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 2,009 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 64,000 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการส่งออกที่ปรับลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ไม่น่าห่วง เพราะไม่ใช่ไทยเพียงประเทศเดียวที่ส่งออกข้าวได้ลดลง ประเทศอื่น ๆ ที่เป็นผู้ส่งออกก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น ไทยมั่นใจว่าจะสามารถรักษาความเป็นแชมป์ส่งออกข้าวตลอดกาลไว้ได้
"ส่วน การบริหารสต๊อกข้าว ยอมรับว่าที่ผ่านมามีการทยอยระบายข้าวด้วยวิธีที่ไม่เปิดเผยหลายครั้ง เพราะไม่มีความจำเป็นจะต้องเปิดเผย ซึ่งวิธีนี้จะส่งผลดีกับธุรกิจข้าวมากกว่า" นายยรรยงกล่าว
ทั้งนี้ นโยบายรัฐบาลต้องการผลักดันการส่งออกข้าว เพื่อให้ไทยยังคงเป็นแชมป์ส่งออกข้าวตลอดกาล แม้ว่าในปี 2554 ไทยได้เผชิญกับปัญหาน้ำท่วม และมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการดูแลราคาข้าวจากการประกันรายได้มาเป็นการรับ จำนำ แต่ก็ยังสามารถส่งออกข้าวไทยได้ 10.67 ล้านตัน มูลค่า 1.9 แสนล้านบาท โดยในรอบ 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งออกข้าวได้แล้ว 2.9 ล้านตัน สูงกว่าเวียดนามที่ส่งออกได้เพียง 2.6 ล้านตัน โดยราคาส่งออกข้าวขาวของไทยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 100 เหรียญสหรัฐต่อตัน เป็น 670 เหรียญสหรัฐต่อตัน นอกจากนี้ ยังมีนโยบายจัดตั้งสมาพันธ์ผู้ผลิตข้าวอาเซียน และตลาดกลางข้าวสาร เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับการส่งออกข้าว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ยังยืนยันว่า การดำเนินนโยบายรับจำนำช่วยยกระดับราคาสินค้าเกษตรในประเทศสูงขึ้นกว่าช่วง เดียวกันของปีก่อน เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ สูงขึ้นตันละ 2,200-2,300 บาท เพิ่มขึ้น 17.2% จาก 12,925 บาทต่อตัน เป็น 15,153 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้านาปี เพิ่มขึ้น 13.4% จาก 8,358 เป็น 9,476 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้านาปรัง เพิ่มขึ้น 34.5% จาก 8,045 เป็น 10,824 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกปทุมธานี เพิ่มขึ้น 39.8% จาก 9,149 เป็น 12,790 บาทต่อตัน ซึ่งโครงการจำนำข้าวเปลือก มีเกษตรกรนำข้าวมาจำนำ 2.1 ล้านครัวเรือน ปริมาณรวมรับจำนำทั้งสองโครงการ 14.3 ล้านตันข้าวเปลือก
ส่วน โครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ส่งผลให้ราคามันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 27.6% จาก 1.80-2.00 บาทต่อกก. เป็น 2.35-2.50 บาทต่อกก. โดยมีเกษตรกรนำหัวมันสำปะหลังมาจำนำ 3.8 แสนครัวเรือน ปริมาณ 5.9 ล้านตันหัวมันสด
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะคณะอนุกรรมการด้านการตลาด ระบายสต๊อกมันสำปะหลังที่ได้จากโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ปี 2554/2555 ซึ่งมีปริมาณราว 8 ล้านตันในขณะนี้ ใน 4 แนวทางเช่นเดียวกันกับข้าวด้วย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
|