ุ
แหล่งข่าวในวงการค้าข้าว เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงสถานการณ์ตลาดข้าวสารเหนียวว่าขณะนี้อยู่ในภาวะหยุดชะงักไม่มีการซื้อการขายระหว่างโรงสีกับผู้ส่งออก แม้ว่าโรงสีจะมีความต้องการขายแต่ผู้ซื้อยังไม่ยอมซื้อ โดยอ้างว่าขอดูราคาข้าวเหนียวที่กระทรวงพาณิชย์จะนำออกมาจำหน่ายก่อนว่าราคาอยู่ในระดับเท่าไร เพราะหวั่นว่าหากกระทรวงพาณิชย์นำออกมาขายราคาถูก จะส่งผลให้ราคาในท้องตลาดอ่อนตัวลงตามไปด้วย หากซื้อไปเวลานี้อาจจะเกิดปัญหาขาดทุนได้ การหยุดซื้อของผู้ค้าข้าวสารเหนียว ทำให้โรงสีต้องซื้อข้าวเปลือกเหนียวจากเกษตรกรในราคาที่ลดลงจากตันละ 14,700 บาท เหลือตันละ 13,500 บาท
ทั้งนี้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)ได้เห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์นำข้าวสารในสต๊อกตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2554/55 มาบรรจุถุงขนาด 5 กก.และ 1 กก. จำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปผ่านโครงการธงฟ้าและร้านถูกใจ จำนวน 5 แสนตัน แบ่งเป็นข้าวสารเจ้า 5% 4 แสนตัน และข้าวเหนียว 10% 1 แสนตัน ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การคลังสินค้า (อคส.)ได้เปิดประมูลให้ผู้สนใจปรับปรุงคุณภาพและบรรจุถุงแล้วจำนวน 3 แสนตัน เป็นข้าวสารเจ้า 5% 2 แสนตัน และข้าวเหนียว 1 แสนตัน
แหล่งข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่มีกระแสข่าวว่ากระทรวงพาณิชย์จะนำข้าวเหนียวมาบรรจุถุงขาย ราคาข้าวเหนียวในตลาดได้อ่อนตัวลงระดับหนึ่งแล้ว จากกระสอบละ 2,650-2,850 บาท เหลือกระสอบละ 2,600-2,800 บาท ต่ำกว่าราคาจำนำที่รัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกเหนียวตันละ 16,000 บาท ราคาข้าวสารเหนียวควรจะอยู่ที่ตันละ 30,000 บาท หรือกก.ละ 30 บาท แต่หลังจากที่อคส.เปิดประมูลปรับปรุงราคายังทรงตัวเพราะตลาดหยุดชะงักงันไม่มีการซื้อขายแต่อย่างใด
"ข้าวเหนียวเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวง่าย เพราะมีผลผลิตน้อยปีหนึ่งเพียงประมาณ 3 ล้านตัน และ 90% บริโภคในประเทศ ส่งออกปีละประมาณ 2-3แสนตันเท่านั้น เพราะฉะนั้นเมื่อมีปัจจัยบวกหรือลบเพียงเล็กน้อยจะมีผลต่อตลาดข้าวเหนียวทันที" แหล่งข่าวกล่าวและว่า
ความจริงแล้วปริมาณข้าวเหนียวในสต๊อกเป็นซัพพลายส่วนเกิน ถ้าไม่มีโครงการรับจำนำราคาจะตกต่ำ เมื่อรัฐบาลรับจำนำแล้วราคาสูงขึ้น แต่รัฐบาลกำลังจะเป็นผู้ทำให้ราคาข้าวเหนียวลง โดยนำสินค้าในสต๊อกออกมาจำหน่ายในประเทศ ข้าวสารจำนวนนี้ควรจะถูกระบายออกต่างประเทศ โดยรัฐบาลเป็นผู้ขายเพราะประเทศผู้ซื้อข้าวเหนียวรายใหญ่คือมาเลเซีย อินโดนีเซีย ผู้นำเข้าข้าวเป็นหน่วยงานของรัฐบาล
กรมการค้าภายในรายงานผลโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2554/55 ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554 วันที่ 9 เมษายน 2555 มีปริมาณข้าวเปลือกเข้าสู่โครงการทั้งสิ้น 6.7 ล้านตัน แยกเป็นข้าวเปลือกเจ้า 2.9 ล้านตัน ปทุมธานี 15,242 ตัน หอมมะลิ 3.08 ล้านตัน หอมจังหวัด 3.35 แสนตัน ข้าวเปลือกเหนียว 4.42 แสนตัน จำนวนนี้สั่งสีแปรแล้ว 6.5 ล้านตัน ส่งมอบข้าวสารแล้ว 4.04 ล้านตัน
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
|