ุ
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับสมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมชาวนาไทย และบริษัทผู้ส่งออกข้าวบางราย ถึงทิศทางและนโยบายข้าวไทยปี 55 ว่า ได้ขอความร่วมมือให้ทำงานร่วมกับภาครัฐ ในการผลักดันราคาข้าว และเพิ่มมูลค่าให้กับราคาข้าวไทย ซึ่งจะไม่เน้นการส่งออกข้าวในเชิงปริมาณ แต่จะเน้นที่มูลค่า ส่วนการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและหลายช่องทาง เช่น ผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะปรับปรุงมาตรฐานข้าวไทยให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกับข้าวต่างประเทศได้มากขึ้น รวมถึงจะบุกตลาดใหม่มากขึ้น เช่น แอฟริกา
“รัฐบาลจะพยายามผลักดันราคาส่งออกให้เหมาะสม และสอดคล้องกับราคารับจำนำ โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารของรัฐ ช่วยเหลือผู้ส่งออกด้านการให้สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน” นายบุญทรง กล่าว
ด้านนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ ข้าวของไทยมีจำนวนน้อยกว่าที่กระทรวงเกษตร ของสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้มาก ขณะเดียวกัน ข้าวสารในสต๊อกเก่าของรัฐบาล รวมกับข้าวที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 54/55 มีกว่า 5 ล้านตันเท่านั้น ดังนั้น การดึงราคาข้าวให้สูงขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องยาก คาดว่า ราคาข้าวขาว น่าจะขึ้นไปถึงกว่าตันละ 700 เหรียญสหรัฐฯได้แน่นอน จากที่เคยขึ้นไปสูงสุดเมื่อ 2-3 ปีก่อนที่กว่า 900 เหรียญฯ
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การรับจำนำข้าวของรัฐบาลสามารถทำให้ราคาข้าวไทยปรับตัวขึ้นได้ เมื่อเทียบกับโครงการประกันรายได้ เช่น ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ในโครงการจำนำล่าสุด ราคาส่งออกอยู่ที่ 1,208 เหรียญฯ ในโครงการประกัน 1,143 เหรียญฯ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ในโครงการจำนำตันละ 663 เหรียญฯ ประกันรายได้ 638 เหรียญฯ เป็นต้น
ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
|