ุ
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประสานงานไปยังบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เพื่อขอพื้นที่จัดทำเป็นซุ้มสำหรับการวางจำหน่ายข้าวสารที่ทำเป็นของที่ระลึกสำหรับจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ตามนโยบายของนายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์ให้พื้นที่มาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำซุ้มให้สวยงาม และคาดว่าจะเปิดขายข้าวถุงที่ระลึกได้ประมาณเดือนก.ย.2556 นี้ เบื้องต้นจะมีที่สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินเชียงใหม่ และจะเพิ่มที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินภูเก็ตต่อไป

สำหรับข้าวถุงที่จะนำไปจำหน่ายเป็นของที่ระลึก จะมีการจัดทำแพจเกจจิ้งอย่างสวยงาม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวถุง โดยเบื้องต้นจะมีข้าวหอมมะลิไทยและข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เพราะสามารถที่จะโปรโมตสะท้อนถึงความเป็นไทยได้ เพราะข้าวทั้ง 2 ชนิดเป็นข้าวคุณภาพชั้นดีของไทย และผลิตได้จำกัด

“ข้าวหอมมะลิไทย แต่ละปีผลิตได้ไม่มาก ถือเป็นสินค้าพรีเมี่ยม ถ้าซื้อไปเป็นของฝาก ก็ถือว่าได้ซื้อของที่ดีที่สุดกลับไปฝากญาติพี่น้อง ฝากเพื่อนฝูง ส่วนข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ก็เป็นข้าวที่ตลาดมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม และใส่ใจในเรื่องสุขภาพ”นางศรีรัตน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดซุ้มจำหน่ายข้าวถุงที่ระลึก กรมฯ มีแผนที่จะประชาสัมพันธ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ได้รับรู้ว่า การมาเที่ยวเมืองไทย ของฝากสิ่งหนึ่งที่ควรจะซื้อกลับไป ก็คือ ข้าว เพราะข้าวเป็นวัฒนธรรมของไทย และไทยเป็นผู้ผลิตข้าวได้คุณภาพดีที่สุดในโลก การซื้อไปเป็นของฝาก ย่อมทำให้ผู้รับรู้สึกว่าได้รับของที่มีคุณค่า รวมทั้งจะมีการจัดกิจกรรมโปรโมตอย่างต่อเนื่องด้วย

การจัดทำข้าวถุงเป็นของฝากดังกล่าว เป็นไอเดียของนายยรรยง ที่ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวไทย โดยผลักดันให้นำข้าวมาทำเป็นของที่ระลึกเพื่อขายให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ซึ่งจะช่วยในการสร้างชื่อเสียงให้กับข้าวไทย และกระตุ้นให้มีการบริโภคข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น โดยมีแผนที่จะทำการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในไทย เมื่อนึกถึงของฝาก ก็ต้องนึกถึงข้าวหอมมะลิไทย เช่นเดียวกับ สินค้าโสมของเกาหลี ช็อกโกแลตชาเขียวของญี่ปุ่น และดอกกล้วยไม้ของเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น

ทั้งนี้ นายยรรยงได้ให้นโยบายอีกว่า การดีไซน์รูปแบบข้าวถุงจะต้องแสดงถึงความเป็นไทย และมีการจัดทำรายละเอียดของข้าว ตั้งแต่การเพาะปลูก การผลิต และให้สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของไทย รวมทั้งให้มีการโปรโมตสินค้าข้าวถุงที่ระลึกว่าเป็นของฝากจากประเทศไทย (Gift from Thailand)

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์