ุ
นายบุญไทย แก้วขันตี รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงการรับจำข้าวนาปรังฤดูการผลิตปี 2555/56 ว่า ธ.ก.ส.พร้อมจะจ่ายเงินรับจำนำตามมติของคณะกรรมการนโยบายข้าว (กขช.) อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตันละ 1.3 หมื่นบาท หรือตันละ 1.5 หมื่นบาท เพราะเป็นเพียงผู้จ่ายเงิน แต่เท่าที่ดูแล้วคงจะปรับลดราคารับจำนำลงมาได้ยาก แม้ว่าราคาข้าวขาวในตลาดขณะนี้จะอยู่ที่ตันละ 1.2-1.3 หมื่นบาท และข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 1.6 หมื่นบาท ต่ำกว่าราคาจำนำ 2 หมื่นบาทก็ตาม

นายบุญไทยกล่าวต่อว่า ธ.ก.ส.ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง เพราะยังมีเงินเหลือจากการรับจำนำข้าวนาปีที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์จาก 15 ล้านตัน เหลือ 11 ล้านตัน ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการขายข้าวและเงินกู้จากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) โดยน่าจะมีเงินในมือสิ้นเดือนมีนาคมประมาณ 8-9 หมื่นล้านบาท และหลังจากนั้นจะมีเงินจากการขายข้าวเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งประเมินว่าปริมาณข้าวนาปรังจะลดลงจากที่เคยประเมินไว้ 11 ล้านตันเหลือเพียง 7-8 ล้านตัน ทำให้ใช้เงินลดลงจาก 1.56 แสนล้าน เหลือเพียงประมาณ 1 แสนล้านบาทเท่านั้น จากภัยแล้งที่กำลังลุกลามหลายจังหวัด

นายสุวิชญ โรจนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาไกล่เกลี่ยปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลระหว่าง ธ.ก.ส.กับกระทรวงพาณิชย์ ที่เป็นผู้บริหารจัดการสต๊อกข้าวเพื่อส่งเงินมาใช้ในโครงการ โดยในเบื้องต้นได้ข้อสรุปให้ยุติการกู้เงินเพิ่มเติมและให้ใช้เงินหมุนเวียนในการจำนำข้าวเท่าเดิม 5 แสนล้านบาท เนื่องจากรัฐไม่อยากมีภาระในการกู้เงินเพิ่มและยังต้องจ่ายค่าบริหารจัดการให้ ธ.ก.ส.อีก

นายโอฬาร ไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกข้าวสู่ตลาดโลกของประเทศไทยในปี 2556 จะปรับตัวดีขึ้นจากปี 2555 หลังได้รับทราบข้อมูลการส่งออกข้าวของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกในปี 2555 ได้ทยอยลดปริมาณส่งออกข้าวลงจากเดิมที่ประมาณ 10 ล้านตัน เหลือเพียง 7-8 ล้านตัน ทั้งข้าวคุณภาพดี และข้าวขาวธรรมดา เนื่องจากข้าวเริ่มหมดสต๊อกหลังจากที่ปี 2555 อินเดียทุ่มขายข้าวในปริมาณมากหรือราว 7 ล้านตัน ส่งผลให้ข้าวราคาถูก และไทยถูกแย่งตลาดไปบางส่วน ขณะที่การส่งออกข้าวของไทย คาดว่า จะส่งออกได้ถึง 8 ล้านตัน จึงน่าจะทำให้ไทยกลับมาเป็นผู้ส่งออกข้าวในระดับต้นๆ ได้

ด้านนายกิตติ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาศาสตร์ด้านแบบจำลองและพยากรณ์เศรษฐกิจ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การปรับลดราคาจำนำในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมีความเหมาะสม และควบคุมให้เกษตรกรปลูกข้าวเข้าโครงการเพียงครั้งเดียว เพราะจะทำให้ดินไม่เสื่อมคุณภาพ แต่ควรกำหนดนโยบายอื่นควบคู่ไป เช่น การส่งเสริมพื้นที่ปลูกพืชพลังงาน โดยเฉพาะถั่วเหลือง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ไม่ใช่ส่งเสริมให้จำนำข้าวเพียงอย่างเดียว

ที่มา นสพ.มติชน